เรียนปริญญาโท Data Science ดีมั้ย? มาดูข้อดี-ข้อเสียกัน

ปริญญาโท data science course

ช่วงนี้มีคนถามแอดมาเยอะมากครับว่า “เรียนปอโท Data Science ดีมั้ย” หรือ “เรียนป.โท Data Science มหาลัยไหนดี” ซึ่งคิดว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย รวมถึงแอดเองด้วยก่อนที่จะไปเรียนต่อครับ

วันนี้เลยจะมาสรุปให้เพื่อน ๆ ฟังกันครับ โดยจะเล่าจากประสบการณ์ที่ผมเรียนจบปริญญาโทด้าน Data Science มาเอง (Master of Data Science ที่มหาวิทยาลัย Monash University) ด้วย และจากที่คุยกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งที่ทำงานในไทยและต่างประเทศ ในด้าน Data Science ครับผม

เกริ่นไว้ก่อนว่า เนื้อหาในนี้อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับประสบการณ์ส่วนตัวของบางท่านนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเรียนปริญญาโทจริง แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมที่จะเข้าไปเรียนด้วยครับ ทั้งจากอาจารย์ และจากรุ่นพี่ที่เรียนมาแล้วเลยครับ

เรียนปริญญาโท Data Science แล้วได้อะไรบ้าง

อันนี้จะมาเล่าจากประสบการณ์ของแอดเอง รวมไปถึงที่ถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานด้านนี้ และเรียนจบปริญญาโทมาก่อนครับ

1) เรียนจบสายไหน ก็มีปูพื้นฐานให้ก่อน

data science foundation ปอโท
รายวิชาปอโทตอนแอดเรียน Master of Data Science เรียนแค่เทอมละ 4 ตัว เหมือนจะชิลแต่เหนื่อยมากครับ T_T

สิ่งที่หลาย ๆ คนกังวลในการเข้ามาทำงานด้าน Data Science คือ เรียนจบไม่ตรงสายมา จะทำงาน Data Science ได้มั้ย

ข่าวดี คือ ปริญญาโท Data Science ส่วนใหญ่ ออกแบบมาให้เหมาะกับคนที่เรียนจบสายไหนก็ได้เข้ามาเรียนครับ เค้าจะเน้นที่ปูพื้นฐานก่อนที่จะเข้าไปเรียนวิชาด้าน Data Science จริง

อย่างที่แอดเรียนจบมา เทอมแรกจะเป็นวิชาพื้นฐานทั้งนั้นเลย ได้แก่

  • พื้นฐานการเขียนโปรแกรม ด้วย Java, R, หรือ Python (หลัง ๆ จะเป็น R ไม่ก็ Python)
  • พื้นฐานคณิตศาสตร์ โฟกัสที่ Algebra, Calculus ซึ่งสาย Data Science จะใช้เยอะ
  • พื้นฐาน Database (ฐานข้อมูล) เช่น การเขียน SQL และสร้าง ER Diagram
  • พื้นฐาน Data Science วิชานี้จะอธิบายให้เราฟังว่า Data Science คืออะไร และให้ลองใช้เครื่องมือ Data Science ต่าง ๆ แบบกว้าง ๆ เช่น Hadoop, Neo4J, BigML, SAS, Bash, Jupyter Notebook ฯลฯ

หลังจากนั้น ค่อยไปเรียนวิชาด้าน Data ที่ต้องใช้ความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดครับ เช่น Big Data Engineering, Data Wrangling, Data Visualization ฯลฯ

แน่นอนว่า ถ้าใครจบตรงสายตอนปอตรี ที่เขียนโค้ดเก่ง หรือคณิตศาสตร์เก่ง ก็จะมีแต้มต่อเล็กน้อย แต่แอดเห็นมากับตาเลยว่าพอเรียน ๆ กันไป คนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็แซงหน้าไปได้งานก่อนได้นะครับ

2) ได้โฟกัสที่เรื่อง Data Science

data science ปริญญาโท
พอไปเรียนปริญญาโท Data Science ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยครับ เช่น รูปนี้เป็นงาน Melbourne Datathon

เล่าให้ฟังก่อนว่าแอดเคยพยายามทำงานนอกสาย Data ไปพร้อมกับพยายามเรียน Data Science เองไปด้วยครับ ปรากฏว่า… เรียนไปเป็นปีก็ไม่ถึงไหน

เนื่องมาจากว่า เราไม่ได้พูดคุยกับคนที่สนใจ Data Science และไม่มีโอกาสได้แตะโปรเจคที่เกี่ยวกับ Data Science เลย รวมไปถึง เรียนแบบสะเปะสะปะ ไม่รู้ด้วยว่าจะเริ่มจากไหน แล้วไปไหนต่อดี

พอได้มาเรียนปริญญาโท ข้อดีอย่างแรกเลย คือ เค้ามีการวางหลักสูตรเป็น Pathway ให้เราเรียนแล้ว เช่น คุณต้องเริ่มจากพื้นฐาน R แล้วต่อด้วยคณิตศาสตร์เบื้องต้น แล้วต่อด้วยการทำโมเดลเบื้องต้น แล้วค่อยไปเรียนวิชาเกี่ยวกับ Machine Learning

ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ ได้พูดคุย และทำโปรเจคร่วมกับคนที่สนใจอยากทำงานด้าน Data Science รวมถึงได้ทำงานกับอาจารย์ที่นำเอา Data ไปสร้างประโยชน์จริง ทำให้เรารู้สึกมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้นเยอะเลยครับ

นอกจากนั้น ถ้าเรียนปริญญาโทแบบเต็มเวลาก็ยิ่งดี เพราะเราสามารถทุ่มเทเวลาไปกับเรื่อง Data Science ได้ครับ (แต่ตอนเรียน แอดก็แอบรับงานฟรีแลนซ์นะครับ เดี๋ยวไม่มีตังค์กินข้าว 5555555TT5555555)

ทำไมถึงไม่ควรเรียนปริญญาโท Data Science

จากมุมมองของหลาย ๆ คนที่ทำงานอยู่ในสายนี้อยู่แล้ว และแอดได้ไปสอบถามมา กว่า 80% ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยครับ ว่า “ปริญญาโทไม่จำเป็น”

เพราะฉะนั้น ลองมาดูข้อเสียของการเรียนปริญญาโทกันบ้างครับ

1) ปริญญาโทใช้ค่าใช้จ่าย และเวลาเยอะ

ปริญญา ต่างประเทศ data science
ใบปริญญา Data Science อาจจะมูลค่า 5 ล้านบาท !?

การที่เราไปลงเรียนปริญญาโท ค่าเรียนแบบเฉลี่ยที่ไทยก็จะประมาณ 200,000 บาทครับ (แต่ไม่ได้จ่ายทีเดียวนะ ค่อย ๆ แบ่งจ่าย) นอกจากนั้นยังมีค่าเดินทาง หรือค่ากินอยู่ที่เราต้องจ่ายอีก

เพราะอย่าลืมว่าถ้าเราเรียนปริญญาโทเต็มเวลา เราจะไม่สามารถทำงานได้ครับ

นอกจากนั้น ถ้าเรียนต่างประเทศ ค่าเรียนน่าจะประมาณ 1 ล้านเป็นอย่างต่ำครับ ยิ่งถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัยดัง ๆ (เช่น Harvard, MIT) อาจจะสูงถึง 3 – 5 ล้านเลยครับ

เพิ่มเติมให้ว่า ค่าเรียนอันนี้แบ่งจ่ายได้ครับ ไม่ต้องจ่ายทีเดียวทั้งก้อน อย่างตอนแอดมาเรียนก็จ่ายแค่ค่าเรียนเทอมแรกก่อนครับ ที่เหลือค่อยจ่ายก่อนเริ่มเทอมนั้น ๆ

เพราะฉะนั้น เพื่อนแอดหลายคนที่มาเรียนจากแถบอินเดีย เค้าจะใช้วิธีกู้เงินมาเรียนครับ แล้วตอนปิดเทอมก็ทำงานอาทิตย์ละ 6 – 7 วันเพื่อหารายได้ เพราะที่ออสเตรเลีย กฏหมายให้ทำงานได้ไม่จำกัดชั่วโมงในช่วงปิดเทอมครับ (ตอนเปิดเทอม จำกัด 20 ชั่วโมง)

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในมหาวิทยาลัยในไทยมีทางเลือกที่น่าสนใจครับ คือ การเรียนปริญญาโทภาคพิเศษ และ ภาคค่ำ

ซึ่งภาคพิเศษส่วนใหญ่ที่แอดเห็นมา ก็จะเรียนช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ทำให้สามารถทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ครับ

และภาคค่ำก็ตามชื่อเลยครับ ตราบใดที่บริษัทที่เราทำไม่ได้บังคับทำ OT เราก็สามารถเรียนได้

นอกจากเรื่องค่าใช้จ่าย ก็จะมีเรื่อง เวลา ที่สำคัญไม่แพ้กันครับ โดยเฉพาะคนที่เรียนเต็มเวลา หรือเรียนต่างประเทศ

เพราะการเรียนปริญญาโทจะใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ปี (เช่น ที่อังกฤษ) หรือแบบทั่วไปก็เรียนประมาณ 2 ปี แปลว่ากว่าเราจะพร้อมเข้าตลาดงาน อาจจะต้องใช้เวลาให้เรียนจบก่อน

ยังไม่รวมถึงว่า ผู้ที่สนใจเรียน Data Science บางท่านจำเป็นต้องใช้เวลาไปกับเรื่องต่าง ๆ เช่น ดูแลครอบครัว ทำให้ไม่สามารถทุ่มเทเวลา 1-2 ปีไปกับการเรียนปริญญาโทได้ ซึ่งอันนี้เป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนพบกันครับ

ข่าวดี คือ เรียน Data ไป – ทำงาน Data ไป สามารถทำได้จริงครับ เคยเกิดขึ้นแล้วกับแอดบอยด์ แอดมินเพจ Big Data RPG ที่ผมเคยคุยด้วย

แอดบอยด์ได้งานเป็น Data Scientist ตั้งแต่เรียนปริญญาโทเทอมแรกเลยครับ แปลว่าถ้าเราตั้งใจจริงก็มีโอกาสหาได้ทำงานเร็วครับ

อ่านบทความที่เคยคุยกับแอดบอยด์ที่นี่ได้เลยครับ ได้แรงบันดาลใจดีมาก:

2) ความรู้ที่เรียนเก่าไป ไม่ทันโลก

ความรู้เก่า ปริญญาโท data science
ความรู้ปริญญาโทอาจจะช้าเกินไป เรียนจบแล้วตามไม่ทันโลก (แต่พื้นฐานก็สำคัญนะครับ)

อันนี้น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ค้นพบกันได้ในมหาวิทยาลัยที่หลักสูตรเปิดมานานแล้วครับ มีความเป็นไปได้ว่าหลักสูตรที่เราจะเข้าไปเรียน เป็นหลักสูตรที่อาจารย์วางแผนกันมาตั้งแต่ 3 – 5 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้น ก่อนจะเข้าไปเรียนอยากให้เช็คก่อนครับ

ซึ่งไม่ใช่ความผิดของอาจารย์ที่วางแผนการสอนนะครับ ตอนที่เค้าวางแผนหลักสูตร เนื้อหาก็ยังตามทันโลกอยู่ครับ แต่โลกของ Data Science มันไปไวมาก เลยทำให้เรื่องต่าง ๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอด

เลยทำให้พอเรียนจบออกมา แล้วไปทำงานในบริษัทจริง พบว่าโลกแห่งความจริงเค้ามีเทคนิคและระบบที่ใช้แตกต่างกับที่เรียนในมหาวิทยาลัยมาก

ตัวอย่างเช่น แอดเรียน Hadoop 2 มา แต่พอเรียนจบ อ้าว เค้าไป Hadoop 3 กันแล้ว ต่างจากเดิมเยอะพอสมควรเลยครับ T_T

อย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันตัวจากปัญหานี้ได้ โดยขยันหาความรู้จากนอกห้องเรียนด้วยครับ เช่น ไปเข้าร่วมงาน Meetup ด้าน Data Science ต่าง ๆ หรืองาน Hackathon / Datathon ที่เกี่ยวกับข้อมูล เพื่อเปิดโลกมากขึ้นครับ

นอกจากนั้น แอดอยากแนะนำคนที่เรียนต่อ ว่าให้ลองพูดคุยกับอาจารย์ ขอไปฝึกงาน หรือช่วยเหลือในโปรเจคต่าง ๆ ครับ ยิ่งเป็นโปรเจคเกี่ยวกับ Data ที่นำมาใช้ในองค์กรจริงยิ่งดีเลยครับ

ตอนที่แอดเรียนปริญญาโทอยู่ มีโอกาสได้ไปฝึกงานกับอาจารย์ระหว่างช่วงปิดเทอม Summer ครับ ในเรื่องความเหลื่อมล้ำของราคา E-book ทั่วโลก ซึ่งอาจารย์เค้าเก็บข้อมูลมาหลายปีแล้ว

โดยผมได้คลีน Data และสร้าง Dashboard บนเว็บ ทำให้โปรเจคนี้ได้ฝึกทั้งการใช้ Python ในการทำความสะอาดข้อมูล และใช้ JavaScript ในการเขียน Dashboard

นอกจากนั้น ยังกลายเป็นผลงานที่นำมาใส่ Resume ได้ด้วย เพราะงานที่ผมทำถูกนำไปพรีเซ้นท์ใน Conference ต่าง ๆ และบรรณารักษ์จากทั่วโลกก็เข้ามาใช้ข้อมูลในนี้กันครับ

3) ทางออกสำหรับคนไม่อยากเรียนปริญญาโท: เรียนคอร์สออนไลน์ Data Science แทนก็ได้

certificate คอร์สออนไลน์ data
certificate คอร์สออนไลน์ data science มีหลายตัวเลยครับ เช่น คอร์สของ Datacamp ที่เนื้อหาเยอะและจ่ายรายปี เรียนแบบบุฟเฟ่ต์เลย

ปัจจุบันนี้ ความรู้ไม่ได้มีแต่ในมหาวิทยาลัยอย่างเดียวแล้วครับ แทบทุกอย่างเราสามารถหาเรียนออนไลน์ได้

ขนาดปริญญาของบางมหาวิทยาลัยยังมาเปิดออนไลน์ได้เลย ต่างประเทศก็มี หรือของไทยก็มี TUXSA ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพราะฉะนั้น พอแอดไปถามเรื่องนี้กับพี่ ๆ เพื่อน ๆ หลายท่าน ก็มีได้รับคำตอบมาว่า “ไปเรียนออนไลน์ดีกว่า”

อันนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยมากครับ เพราะเนื้อหาคอร์สออนไลน์มีครบครันจริง เราอยากเรียนอะไรเกี่ยวกับ Data ก็สามารถเลือกเรียนได้เลยครับ ที่สำคัญ ราคาถูกมากถ้าเทียบกับการเรียนปริญญาโท

อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่มีคนเคยวิจัยมาแล้ว พบว่า การเรียนออนไลน์มีคนที่เรียนจบไม่ถึง 10% และจากที่แอดเคยลองเรียนเองมาก่อน ก็พบว่า Data Science เป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างกว้างครับ ทำให้การเรียนออนไลน์เองเลยยากกว่าวิชาอื่น ๆ ด้วย เพราะเรียนจบแล้วไม่รู้จะมาปะติดปะต่อยังไงดี

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเราเรียนออนไลน์เราจะเรียนไม่จบซะทีเดียวครับ ถ้าเรามีการตั้งเป้าหมายที่ดี มีความพยายาม เราก็สามารถเรียนจบได้ครับ เช่น คุณอาร์ม คนไทยที่เรียนคอร์สออนไลน์จบมาแล้วกว่า 50 คอร์ส

ถ้าอยากรู้ว่าคุณอาร์มเค้ามีแนวคิดยังไงถึงทำสำเร็จได้ แนะนำให้อ่านดูเลยครับ

สรุป เรียนปริญญาโท Data Science ดีมั้ย

ถ้าเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหา ผมแนะนำให้เรียนปริญญาโทด้าน Data Science แบบเต็มเวลา

เพราะอย่างที่บอกว่าเราจะโฟกัสกับเรื่องนี้ได้เต็มที่มาก ทำให้โอกาสที่ความรู้เราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจบไปแล้วได้งานทำ มีเยอะขึ้นครับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับคนที่ไม่ได้ทำสาย Data มาก่อน การเข้าไปเรียนปริญญาโทก็จะช่วยให้เราย้ายสายงานได้สะดวกมากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ หรือเรื่องตอนไปสัมภาษณ์งาน เราใช้ความได้เปรียบว่าเรียนจบด้านนี้มาแล้วได้

สำหรับท่านที่กำลังมองหาปริญญาโท Data Science ในไทยอยู่ อันนี้คือเท่าที่ทราบนะครับ (แนะนำกันเพิ่มเข้ามาทาง Inbox ได้ครับ)

ถ้าไม่สะดวกเรียนปริญญาโท เรียนออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดี

ส่วนถ้าใครไม่สะดวกเรียนปริญญาโท ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องเงิน เรื่องเวลา หรือเรื่องที่ว่าไม่อยากนั่งเรียนพร้อมกับเด็กจบใหม่ (อันนี้เป็นเหตุผลจริงที่มีคนเคยบอกมาครับ) ฯลฯ ผมคิดว่าคอร์สออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูง

นอกจากนั้น ปัจจุบันยังมีทางเลือกเป็นคอร์สออนไลน์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และอาจารย์ชื่อดัง เช่น คอร์ส Machine Learning ของอาจารย์ Andrew Ng จาก Stanford University

หรือจากบริษัทดัง เช่น คอร์ส Data Engineering with Google Cloud จาก Google

ทำให้คุณค่าที่ได้เวลาเราจบคอร์สพวกนี้ เวลาเอาไปสมัครงาน ถ้าคนอ่าน Resume ของเราเป็นคนที่หาความรู้ด้านนี้ และรู้จักคอร์สเหล่านี้อยู่แล้ว เค้าก็จะอยากคุยกับเรามากขึ้นครับ

และถึงแม้ว่าบางบริษัทอาจจะให้คุณค่าของ Certificate จากคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ น้อยกว่าปริญญาโท แต่ถ้าเราผ่านเข้าไปสัมภาษณ์กับทีมที่ทำงานด้านนี้อยู่จริงได้ มีความรู้พื้นฐานที่แน่น และสามารถแสดงให้เห็นว่าเราสร้างคุณค่าให้บริษัทที่เราไปสมัครได้ ก็มีโอกาสได้งานครับ

ขออนุญาตยกเคสที่แอดเคยสอนคอร์ส Road to Data Engineer แล้วก็สามารถทำให้ผู้เรียนท่านหนึ่งสมัครเป็น Data Engineer ที่บริษัทในตลาดหุ้นแห่งหนึ่งได้สำเร็จครับ

ผู้เรียนท่านนี้ไม่ได้เรียนจบปริญญาโทมาก่อนเลย แต่ตั้งใจที่จะทำงานด้านนี้จริง และระหว่างเรียนก็ขยันมาถามคำถามต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความรู้อยู่ตลอดเลยครับ

เพราะฉะนั้น สำหรับท่านที่กำลังสนใจอยากเข้ามาทำงานในวงการ Data Science ก็ขอให้มีความตั้งใจไว้ก่อนเลยครับ จะเรียนจากทางไหนก็ได้ แล้วแต่กำลังทรัพย์ และเวลาครับ

และถ้าอยากติดตามความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับ Data Science สามารถติดตามจาก Facebook Page DataTH Data Science ชิลชิล ได้เลยนะครับ

ขอบคุณรูปประกอบสวย ๆ ในบทความนี้ จาก Freepik Stories

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save