10 เทคนิคทำ Resume สาย Data ให้โดดเด่น เตรียมพร้อมสมัครงาน แบบผ่านฉลุย

data science resume tips

ในการสมัครงานสาย Data การทำ Resume เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ HR (HR คือ Human Resource ทีมที่คัดกรอง Resume ผู้สมัคร หรือบางบริษัทอาจจะเรียก TA = Talent Acquisition) เลือกเรา หรือปัดตก Resume ของเราได้เลย

ส่วนใหญ่ เราจะมีโอกาสส่ง Resume ให้ได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 บริษัท และถ้าไม่ผ่าน หรือผ่านไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน จะมีเวลาที่ต้องรอก่อนจะส่งใหม่ ซึ่งเรียกในภาษา HR ว่า “Cooling off period” ถ้าในบริษัทใหญ่ ๆ อาจจะมี Cooling off period สูงถึง 6 – 12 เดือนเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น การใช้เวลาทำ Resume ของเราให้ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญมากครับ ซึ่ง Resume ที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็น Resume ที่สวย เน้นที่การอ่านง่าย ข้อมูลครบ

วันนี้เรามี 10 เทคนิค ที่จะช่วยให้ Resume ของคุณโดดเด่น โดยเก็บรวบรวมมาจากประสบการณ์ที่ทำงานในสาย Data และมีโอกาสช่วยนักเรียน DataTH กว่าร้อยคน ในการหางานครับ

ความสวยงามของ Resume สาย Data Science ต้องสวยงามขนาดไหน

data analyst resume sample
ตัวอย่าง Resume ของ Data Analyst จาก Resume Worded จะเห็นว่าหน้าตาเรียบง่ายมากครับ

หลายคนเข้าใจว่า Resume ต้องสีสันสดใส ใส่รูปเท่ ๆ ถึงจะเตะตา HR แต่จริง ๆ แล้วคนที่ได้อ่าน Resume ของเราก่อน ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในบริษัทใหญ่ ๆ ที่คนส่งใบสมัครงานเยอะมาก จะไม่ใช่ HR แต่เป็น คอมพิวเตอร์ (AI) ครับ เพราะฉะนั้น Resume ของเราไม่ต้องเน้นที่ความสวยงามก็ได้ แต่เน้นให้แสกนอ่านได้ง่าย

  • Tip 1) ใช้โปรแกรมไหนทำ Resume ดี: ทำใน Word ก็พอแล้ว
    << เพื่อให้ AI อ่านได้ ส่งเป็นไฟล์ PDF เพราะถ้าทำเป็นไฟล์รูปภาพ AI จะอ่านไม่ได้ และต้องมีการแบ่งพื้นที่ให้อ่านได้ง่ายด้วย เพื่อให้ตอน HR มาอ่านอีกรอบก็ผ่านฉลุย
  • Tip 2) ใส่ข้อมูลส่วนตัว (รูป, ที่อยู่) ดีมั้ย: ไม่ต้องใส่รูป และไม่ต้องใส่ที่อยู่บ้านแบบละเอียด
    << ข้อนี้สำคัญมาก เพราะเราเผลอใส่ข้อมูลพวกนี้มากันเยอะ แต่ถ้าในบริษัทต่างชาติใหญ่ ๆ (ทั้งในไทยและต่างประเทศ) ถ้าเราใส่รูป หรือที่อยู่ไป เค้าอาจจะรู้สึกว่าเราไม่มีความ Profession ครับ เพราะงานสาย Data ไม่ได้ใช้หน้าตา แล้วก็ไม่ต้องใส่ที่อยู่แบบละเอียดถึงขนาดเลขที่บ้าน เพราะ HR ไม่ได้จะเอาไปแจ้งตำรวจ หรือเอาไปดูดวง
  • Tip 3) มีอีเมล เบอร์โทร​ ที่ติดต่อง่าย
    << ข้อนี้สำคัญมากกกก ถ้าสมัครงานต่างประเทศ บางทีเค้าอาจจะเมลมา แล้ว SMS มาด้วยครับ (อย่างที่ออสเตรเลีย SMS ส่งฟรี เคยเจอ HR ใช้บ้างบางที)

ทำ Portfolio / Project สาย Data Science ใส่ใน Resume แบบไหนดี

github beautiful portfolio sample
GitHub ก็ทำให้สวยได้ ตัวอย่างจาก GitHub ของ Solution Engineer Lead ที่ LINE Thailand

เป้าหมายของการใส่ Portfolio คือ ช่วยให้คนที่จะสัมภาษณ์งานเรา รู้ว่าเรามีสกิลอะไรบ้างครับ

  • Tip 4) การทำ Portfolio ที่เหมาะกับสายงาน Data ที่จะสมัคร
    << เช่น ถ้าสาย Data Engineer / Data Scientist ใส่เป็นลิงค์ GitHub เพื่อให้เห็นโค้ด ก็ช่วยให้เค้ารู้ฝีมือเราได้แล้ว ไม่ต้องทำเป็นเว็บไซต์สวย ๆ ก็ได้ (แต่ถ้าทำเว็บสวย ก็อาจจะทำให้พอร์ทเราโดดเด่นขึ้นนะ ถ้า HR มีเวลาดู)
    << แต่ถ้าสาย Data Analyst อาจจะมีเว็บไซต์แสดงให้เค้าเห็นว่าเราทำ Dashboard / Report / Analysis ได้แบบไหน ก็ช่วยให้น่าสนใจมากขึ้น
  • Tip 5) ถ้าจะทำ Project ไปเสนอเพื่อให้เราโดดเด่นขึ้น ควรทำเกี่ยวกับ Data ด้านเดียวกับบริษัทที่จะสมัครงาน
    << เช่น เราจะไปสมัครบริษัท E-Commerce เราก็หาข้อมูลจาก E-Commerce มาทำโปรเจค อันนี้เป็นเทคนิคที่แอดบอยด์ เพจ Big Data RPG ใช้สมัครงานจริงด้วยครับ

ข้อมูลที่ควรใส่ใน Resume สาย Data Science ใส่อะไรบ้างดี

บางคนมีประสบการณ์มาเยอะ อาจจะเขียน Resume ยาว 8 เมตรได้ แต่ก็ไม่ควรทำครับ เนื่องจากว่า HR ไม่มีเวลาอ่านจนจบแน่นอน ยิ่งกับบริษัทที่คนสมัครเยอะ ๆ ด้วยแล้ว

data science resume short not long
มีประสบการณ์เยอะ ๆ เป็นเรื่องดีครับ แต่ไม่ต้องเขียนทั้งหมด เน้นเขียนสิ่งที่สำคัญกับงานที่จะสมัคร ไม่งั้น HR โยนทิ้งแน่นอน

ใน Section นี้ เราจะมาพูดถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ควรใส่ใน Resume กันครับ

  • Tip 6) Career Summary เขียนให้ชัดเจนไว้บนสุด ว่ามีประสบการณ์ด้านไหน ถ้าย้ายสายงาน สนใจด้าน Data เพราะอะไร
  • Tip 7) ไม่ควรเขียนว่าอยากเข้าไปเรียนรู้ อยากได้โอกาส
    << เพราะบริษัทอยากได้คนทำงาน อยากได้คนที่สร้างรายได้ให้บริษัทได้ เพราะฉะนั้นควรใส่สกิลว่าทำอะไรได้บ้าง และเรียนคอร์สเสริมไหนมาบ้าง ยิ่งมีโปรเจคตัวอย่างให้ดูด้วย ยิ่งดี หรือถ้าสอบ Certificate ตัวไหนผ่านจะยิ่งดีมาก ๆ เพราะจะทำให้ HR เห็นว่าเรามีความตั้งใจศึกษาด้าน Data และม่ีสกิลด้านนี้จริง
  • Tip 8) ในงานแต่ละงานที่เคยทำ และคอร์สที่เคยเรียน เขียนอธิบายให้ชัดเจน โดยเฉพาะผลลัพธ์ที่ได้
    << เช่น เรียนอะไรมา หรือ ทำงานนี้แล้วช่วยให้ยอดขายเพิ่ม X เท่า ทำให้งานเร็วขึ้น Y% (อัันหลังเป็นเทคนิคของสาย Consultant)
  • Tip 9) ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสายที่ต้องการสมัครไว้ด้านบนก่อน
    << ข้อนี้สำคัญอีกเช่นกัน เพราะหลายคนเข้าใจว่าใส่ ๆ ข้อมูลให้เยอะไว้ก่อน แต่ไม่ได้ใส่ข้อมูลทีั่สำคัญไว้ด้านบน ทำให้ HR ดูแล้วก็ลบทิ้งไป เช่น ถ้า Education, Experiences เราไม่เกี่ยวข้องเลย ก็เอาไปไว้ด้านล่าง แล้วเน้นใส่ Skills, Projects, Certificates ด้าน Data ไว้ด้านบน

การหา Connection / Referral สาย Data Science

data science meetup networking session
แนะนำให้ไปหา Meetup ในด้านที่เราสนใจครับ เช่น กลุ่ม ThaiPy รวมคนใช้ Python ในไทย

ในการหางาน การหา Connection เป็นส่วนสำคัญมากครับ เพราะถ้าเรารู้จักคนในบริษัทไหน และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนนั้น เค้าก็สามารถช่วย Refer (แนะนำ) เราเข้าไปทำงานในบริษัทนั้นได้ครับ โดยเฉพาะในบริษัทใหญ่ ๆ จะให้ความสำคัญกับการ Referral มาก

  • Tip 10) หา Connection จากแหล่งต่าง ๆ
    << เช่น Meetup / Career Fair / LinkedIn / คอร์ส DataTH (เหมือนแอบขายของ แฮ่ แต่นักเรียนเราหลายคนแล้วก็ได้งานจากคนที่มาเรียน และคนที่มาสอนนี่แหละ มีคนจากบริษัทดัง ๆ เยอะมาก โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ที่เปิดโอกาสให้คนย้ายสายงานมาทำได้) ซึ่ง Connection ที่ดี จะจะช่วยให้ผ่านไปรอบสัมภาษณ์ง่ายขึ้นอีก

จบกันไปแล้วครับสำหรับ 10 เทคนิคที่จะช่วยในการทำให้ Resume สาย Data ของคุณโดดเด่น ลองนำไปปรับใช้กับ Resume ของตัวเองดูครับ ถ้าใช้แล้วได้งาน หรือได้สัมภาษณ์ที่ไหน อย่าลืมทักมาบอก (ทาง Facebook Page) กันนะครับ :D

และที่สำคัญ ถ้าคุณเป็นนักเรียนคอร์ส Road to Data Engineer จะสามารถส่ง Resume มาให้ผมกับแอดฝนช่วยรีวิวได้นะครับ ดูรายละเอียดในคอร์สได้เลย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save