Data Migration คืออะไร
Data Migration หรือการย้ายข้อมูล คือ กระบวนการในการย้ายข้อมูลจากแหล่งหนึ่งไปยังอีกแหล่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายจากพื้นที่เก็บข้อมูลหนึ่งไปยังอีกพื้นที่เก็บข้อมูลหนึ่ง หรือจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการย้ายการทำงานบน On Prem ไปยัง Cloud
บทความนี้จะพาไปดูภาพรวมเกี่ยวกับการย้ายข้อมูลและการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการทำ Data Migration กัน
ทำไมต้องทำ Data Migration
เหตุผลของการทำ Data Migration นั้นมีหลากหลายออกไปตามความจำเป็นของการย้ายข้อมูลในองค์กร เช่น บริษัทต้องการอัพเกรด server ใหม่ การเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บข้อมูล การรวบรวมข้อมูลเข้ามาอยู่ในที่เดียวกัน หรือแม้แต่การเลิกใช้ data centre
ไม่ว่าจะย้ายข้อมูลแบบไหน ไปอยู่บน Cloud ตั้งแต่ Public, Private, Hybrid หรือ Multulcould หรือย้ายข้อมูลออกจาก Cloud ไป on Prem ก็ต้องหาวิธีที่ปลอดภัย ใช้เงินน้อยที่สุดและมีประสิทธิภาพ
Data Migration ทำอย่างไร
การทำ Data Migration หรือการย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งนั้น หลักๆมี 2 วิธี คือการย้ายข้อมูลแบบ Online และ การย้ายข้อมูลแบบ Offline
- Online Migration เป็นการย้ายข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือผ่านทาง Connection ที่เป็น Private หรือออกแบบมาให้เฉพาะเราใช้
- Offine Migration เป็นการย้ายข้อมูลผ่านทางการใช้ Storage คือนำข้อมูลมาใส่ในที่เก็บข้อมูล อย่าง Hard disk ตามขนาดที่เหมาะสมแล้วทำการขนส่งไปยังจุดหมายปลายทาง ยกตัวอย่าง Amazon Snowball เป็นบริการที่สามารถย้ายข้อมูล แบบ Offline สำหรับข้อมูลระดับ terabytes ไปไว้บน Cloud ได้อย่างไม่ยาก
ถ้าต้องเลือกระหว่าง 2 วิธีนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ขนาดของข้อมูลที่จำเป็นต้องย้าย เราต้องทำการย้ายเร็วมากน้อยแค่ไหน workload ที่อาจจะต้องทำและต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการย้ายข้อมูลด้วย
วิธีการเริ่มทำ Data Migration แบบ Step by Step
เรามาดูกันว่าถ้าเราต้องทำการย้ายข้อมูลจะต้องเริ่มอย่างไร ต้องคิดถึงเรื่องอะไร หรือแพลนอะไรบ้าง
- การวางแผนและวิเคราะห์
- กำหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการทำ Data Migration
- ทำการวิเคราะห์แหล่งข้อมูลและปลายทาง
- การเตรียมข้อมูล (Data Preparation)
- ทำความสะอาดและปรับปรุงข้อมูล
- แปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการหรือรูปแบบที่เหมาะสมกับปลายทาง
- การเลือกเครื่องมือ
- เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับงาน
- ตรวจสอบความสามารถในการรวมข้อมูล การปรับขนาด ความง่ายในการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
- การทำการทดสอบ (Testing)
- ทดสอบการย้ายข้อมูลใน environment ที่คล้ายคลึงกับของจริง อาจจะสร้าง test environment ขึ้นมา
- ตรวจสอบความถูกต้องและประสิทธิภาพ รวมถึงดูว่าระบบอื่ีนๆที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่
- การย้ายข้อมูล (Data Migration)
- ดำเนินการย้ายข้อมูลตามแผนที่กำหนด
- ตรวจสอบความสำเร็จของการย้ายข้อมูล
- การตรวจสอบหลังการย้าย (Reconciliation)
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ย้ายแล้ว
- ตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ มีข้อผิดพลาดอะไรหรือไม่ อาจจะทำลิสต์เพื่อเช็คสิ่งที่ต้องตรวจสอบ
เมื่อเรารู้ step คราวๆแล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ก็มาถึงเรื่องสำคัญ การเลือกใช้เครื่องมือ
การเลือกใช้เครื่องมือ Data Migration
การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการย้ายข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเครื่องมือที่ดีสามารถช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และลดเวลาในการดำเนินการได้
คุณสมบัติสำคัญที่ควรมองหาในการเลือกเครื่องมือ Data Migration
ความสามารถในการรวมข้อมูล (Data integration capabilities)
- เครื่องมือย้ายข้อมูลควรสามารถรวมข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลระบบจัดการ (RDBMS), แฟ้มข้อมูล, แอปพลิเคชัน, หรือข้อมูลบนคลาวด์
- ควรสามารถจัดการกับรูปแบบข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลเชิงโครงสร้าง (Structured Data), ข้อมูลกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured Data), และข้อมูลไม่เชิงโครงสร้าง (Unstructured Data)
- รองรับการแปลงข้อมูล (Data Transformation) เพื่อให้ข้อมูลที่ย้ายเข้ากันได้กับปลายทาง
การปรับขนาดได้ (Scalability)
- เครื่องมือควรสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการขององค์กร ตั้งแต่การย้ายข้อมูลขนาดเล็กไปจนถึงข้อมูลขนาดใหญ่
- ควรสามารถรองรับการเพิ่มจำนวนผู้ใช้และจำนวนงานได้โดยไม่ลดประสิทธิภาพ
- รองรับการขยายตัวในอนาคตเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ
การใช้งานง่าย (Ease of use)
- เครื่องมือควรมีหน้าตาที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคสามารถใช้งานได้
- มีคู่มือการใช้งานและการสนับสนุนที่ดี เพื่อช่วยแก้ปัญหาและตอบคำถามเมื่อผู้ใช้มีปัญหาในการใช้งาน
- มีเครื่องมือช่วยสร้างการย้ายข้อมูลแบบอัตโนมัติ หรือ workflow ที่ง่ายต่อการตั้งค่าและจัดการ
คุณสมบัติด้านความปลอดภัย (Security features)
- เครื่องมือควรมีคุณสมบัติในการเข้ารหัสข้อมูลทั้งในขณะย้ายข้อมูล (In transit) และขณะจัดเก็บ (At rest) เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
- รองรับการตรวจสอบและติดตามการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถตรวจสอบความผิดปกติและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- ปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น GDPR, HIPAA, และ ISO 27001
ประสิทธิภาพและความเร็ว (Performance and speed)
- เครื่องมือควรมีประสิทธิภาพสูงในการย้ายข้อมูล สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้ระบบต้นทางหรือปลายทางทำงานช้าลง
- รองรับการย้ายข้อมูลแบบเรียลไทม์ (Real-time Data Migration) เพื่อให้ข้อมูลในปลายทางเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการย้ายข้อมูล เช่น การทำคู่ขนาน (Parallel Processing), การบีบอัดข้อมูล (Data Compression), และการกรองข้อมูล (Data Filtering) เพื่อเพิ่มความเร็วในการย้ายข้อมูล
เครื่องมือ Data Migration
เครื่องมือ Data Migration ยอดนิยม
1. Informatica PowerCenter (On-Prem)
เป็นเครื่องมือระดับองค์กรสำหรับการรวมข้อมูล การจัดการคุณภาพข้อมูล และการย้ายข้อมูล รองรับการทำ ETL (Extract, Transform, Load) และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่
-
- ข้อดี: ประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
- ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง และการตั้งค่าและการจัดการที่ซับซ้อน
2. Microsoft SQL Server Integration Services (SSIS) (On-Prem)
เป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft SQL Server ซึ่งใช้ในการรวมข้อมูล ย้ายข้อมูล และการแปลงข้อมูล รองรับการทำงานกับฐานข้อมูลต่างๆ และมีการตั้งค่าเวิร์กโฟลว์ที่ยืดหยุ่น
-
- ข้อดี: รวมอยู่ใน SQL Server และสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ Microsoft อื่น ๆ ได้ดี
- ข้อเสีย: ต้องการความรู้เฉพาะทางในการใช้งาน และไม่เหมาะสำหรับการย้ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม
3. Talend Data Integration (On-Prem/Cloud)
เป็นเครื่องมือ open source ที่มีความสามารถในการรวมข้อมูลและการย้ายข้อมูล รองรับการทำ ETL และการจัดการข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
-
- ข้อดี: Open source รองรับการรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่เป็นที่รู้จักมากมาย
- ข้อเสีย: อาจมีการปรับแต่งที่ต้องการ และการสนับสนุนทางเทคนิคอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
4. IBM InfoSphere DataStage (On-Prem/Cloud)
เป็นเครื่องมือสำหรับการรวมข้อมูลและการย้ายข้อมูลที่รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมต่างๆ และมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
-
- ข้อดี: รองรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
- ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง และต้องการการฝึกอบรมเฉพาะทาง
5. Apache NiFi (On-Prem/Cloud)
เป็นเครื่องมือ open source ที่ช่วยใน work flow ของข้อมูลโดยอัตโนมัติ รองรับการรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และการแปลงข้อมูล
-
- ข้อดี: open source รองรับการอัตโนมัติการไหลของข้อมูล และมีความยืดหยุ่นสูง
- ข้อเสีย: อาจต้องมีการปรับแต่ง และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่
6. AWS Data Migration Service (DMS)
เป็นบริการจาก Amazon Web Services ที่ช่วยในการย้ายฐานข้อมูลไปยังและจาก Amazon RDS, Amazon Redshift และ Amazon S3 รองรับการย้ายข้อมูลแบบเรียลไทม์และมีความยืดหยุ่นสูง
-
- ข้อดี: องรับการย้ายข้อมูลแบบเรียลไทม์ และมีความยืดหยุ่นในการกำหนดค่า
- ข้อเสีย: ขึ้นอยู่กับความเสถียรของอินเทอร์เน็ต และมีค่าใช้จ่ายตามการใช้งาน
7. Google Cloud Dataflow (Cloud)
เป็นบริการจาก Google Cloud สำหรับการประมวลผลข้อมูลแบบสตรีมมิ่งและแบบชุด สามารถใช้ในการย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ของ Google
-
- ข้อดี: รองรับการประมวลผลข้อมูลแบบ streaming และแบบ batch และมีการเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ของ Google Cloud
- ข้อเสีย: ขึ้นอยู่กับความเสถียรของอินเทอร์เน็ต และอาจมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับการใช้งานในระยะยาว
8. Azure Data Factory (Cloud)
เป็นบริการจาก Microsoft Azure สำหรับการรวมข้อมูลและการย้ายข้อมูล รองรับการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลต่างๆ และการประมวลผลข้อมูลบนคลาว
-
- ข้อดี: รองรับการรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ และมีการตั้งค่า workflow ที่ยืดหยุ่น
- ข้อเสีย: ขึ้นอยู่กับความเสถียรของอินเทอร์เน็ต และมีค่าใช้จ่ายตามการใช้งาน
สรุป Data Migration
การย้ายข้อมูลก็เปรียบเสมือน การที่เราจะย้ายบ้าน ต้องเลือกวิธีการขนของ จากบ้านเก่าไปยังบ้านใหม่ ต้องเช็คความเรียบร้อยของของบ้านเก่า และทำความสะอาดบ้านใหม่ให้เรียบร้อยก่อนย้ายเข้าไป
รวมถึงการตัดสินใจว่าเราจะย้ายยังไง ย้ายเองหรือจ้างคนมาย้าย และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของไม่กระแทกเสียหายด้วย
ดังนั้นความสำเร็จของการย้ายข้อมูล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยตั้งแต่ การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม โดยพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการรวมข้อมูล การปรับขนาด ความง่ายในการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
ถ้าใครสนใจ อยากรู้ว่าย้ายข้อมูลจริงๆเขาทำกันยังไงรอติดตามได้ในบทความหน้า เราจะมาย้ายข้อมูลให้ดูกันโดยใช้หนึ่งในเครื่องมือในบทความนี้
ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ อยากฝากให้ช่วยแชร์ให้เพื่อน ๆ หน่อยนะคะ และถ้าอยากติดตามบทความดี ๆ ด้าน Data กันบน Facebook หรืออยากมาพูดคุย ติชมกัน เชิญได้ที่ Facebook Page: DataTH – Data Science ชิลชิล เลยนะค้าา
แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
