คู่มือเปลี่ยนอาชีพ: Generative AI Engineer คือใคร ต้องเรียนพื้นฐานอะไรบ้าง

generative-ai-engineer-job-header

เมื่อไม่กี่ปีก่อน เวลาพูดถึงอาชีพในวงการเทคโนโลยี หลายคนคงนึกถึง Data Scientist เป็นอันดับแรก ถึงขนาดมีคนขนานนามว่าเป็น “อาชีพที่เซ็กซี่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21” แต่ตอนนี้ มีอาชีพใหม่ที่กำลังมาแรงไม่แพ้กัน นั่นคือ Generative AI Engineer หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า Gen AI Engineer

ทำไมถึงมาแรงขนาดนี้?
เหตุผลหลักมาจากความก้าวหน้าของ AI ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้เอง จนเปลี่ยนวิธีการทำงานในหลายธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น:

  • ChatGPT: แชทบอทที่สามารถสนทนาภาษาธรรมชาติกับผู้ใช้ได้อย่างลื่นไหล ราวกับคุยกับคนจริง
  • DALL-E: โมเดลสร้างภาพที่สามารถตีความคำอธิบายเป็นภาพได้อย่างอัจฉริยะ
  • Whisper: โมเดลแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ (Speech-to-Text) ที่มีความแม่นยำสูง

ความสามารถเหล่านี้ถูกเรียกรวมว่า Generative AI ซึ่งเกิดจากการใช้เทคนิค Machine Learning และ Deep Learning ในการสร้างข้อมูลใหม่ (เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ) จากข้อมูลต้นแบบที่มีอยู่แล้ว นี่เองที่ทำให้อาชีพ Generative AI Engineer กลายเป็นที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยองค์กรนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้สร้างคุณค่าได้เต็มประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับอาชีพ Generative AI Engineer ว่าพวกเขาคือใคร ทำอะไรบ้าง และถ้าเราสนใจอยากทำงานด้านนี้ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? พร้อมทั้งแนะนำคอร์สเรียนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น

generative-ai-engineer-job-1

Generative AI Engineer คือใคร อาชีพนี้ทำอะไรบ้าง

Generative AI Engineer คือผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนาและนำ Generative AI มาใช้ในงานจริง พวกเขาต้องมีความรู้หลายด้านผสมผสานกัน ทั้งการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเขียนโปรแกรม วิทยาการข้อมูล และวิศวกรรมข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องเชี่ยวชาญการทำงานกับเทคโนโลยี AI สมัยใหม่ เช่น:

  • Machine Learning และ Deep Learning
  • Large Language Models (LLMs)
  • Generative Adversarial Networks (GANs)

จุดมุ่งหมายหลักคือการสร้างแอปพลิเคชันที่ฉลาด เรียนรู้ได้ และสามารถเรียนรู้จากข้อมูลและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง

หน้าที่หลักของ Generative AI Engineer ได้แก่:

  • พัฒนาและปรับแต่งโมเดล Generative AI: สร้างระบบที่สามารถผลิตเนื้อหาใหม่ ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ
  • ออกแบบระบบ AI: วางแผนและสร้างระบบที่รองรับการทำงานของ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงขยายขนาดได้ตามความต้องการ
  • นำโมเดลไปใช้งานจริง (Deployment): ทำให้โมเดลสามารถใช้งานได้ในผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ
  • ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพโมเดล: ทดสอบและปรับแต่งระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ AI ทำงานได้ดีที่สุด

Generative AI Engineer เป็นผู้เชื่อมโยงระหว่าง Generative AI และการนำไปใช้งานจริง พวกเขาใช้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโมเดลและระบบ AI เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ฉลาดและตอบสนองต่อความต้องการที่ซับซ้อน ทำให้เทคโนโลยี AI สามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง

ตัวอย่างงานของ Generative AI Engineer

  • ออกแบบและพัฒนาอัลกอริทึมสำหรับโมเดล Generative AI: ใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) เพื่อสร้างและปรับปรุงโมเดลที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ
  • ทำงานร่วมกับทีมข้ามสายงาน: ประสานงานกับทีมต่าง ๆ เช่น ทีมพัฒนา, ทีมออกแบบ, และทีมผลิตภัณฑ์ เพื่อผสานโซลูชัน Generative AI เข้ากับระบบงานที่มีอยู่
  • วิจัยและติดตามความก้าวหน้าล่าสุดใน Generative AI: อัปเดตตัวเองเกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ ๆ ใน Generative AI และนำมาประยุกต์ใช้ในงาน
  • ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพโมเดล: ปรับปรุงและปรับแต่งโมเดลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ รวมถึงการลดทรัพยากรที่ใช้
  • แก้ไขปัญหาและบำรุงรักษาโมเดล: แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับโมเดล Generative AI และการนำไปใช้งาน รวมถึงการบำรุงรักษาให้ระบบทำงานได้อย่างราบรื่น

Use Cases การประยุกต์ใช้ Generative AI ในธุรกิจหลากหลายด้าน

1. งานบริการลูกค้า
ตัวอย่าง:
บริษัทมีลูกค้าโทรเข้ามาถามข้อมูลวันละหลายพันครั้ง พนักงานคอลเซ็นเตอร์ไม่เพียงพอ
การนำ Generative AI มาใช้:

  • วิศวกร Generative AI พัฒนาแชทบอทที่เข้าใจภาษาพูดธรรมชาติของลูกค้า ตอบคำถามพื้นฐานได้ทันที เช่น วิธีเปิดบัญชี อัตราดอกเบี้ย
  • หากคำถามซับซ้อน ระบบจะส่งต่อไปยังพนักงานที่เชี่ยวชาญ
  • ธนาคารลดภาระงานพนักงาน ตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น

2. โรงงานอุตสาหกรรม
ตัวอย่าง:
วิศวกรในโรงงานผลิตรถยนต์เสียเวลาหาข้อมูลจากคู่มือเทคนิคหลายพันหน้า
การนำ Generative AI มาใช้:

  • วิศวกร Generative AI พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลอัจฉริยะ ถ้าใส่คำถาม เช่น “แก้ปัญหาเครื่องยนต์เสียงดังอย่างไร”
  • ระบบจะสกัดคำตอบจากคู่มือทั้งหมดขึ้นมาให้ทันที
  • วิศวกรค้นหาข้อมูลได้ไวขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

3. การแพทย์และการวินิจฉัยโรค
ตัวอย่าง:
โรงพยาบาลมีภาพ X-ray จำนวนมาก หมอมีเวลาจำกัด
การนำ Generative AI มาใช้:

  • วิศวกร Generative AI พัฒนาโมเดลที่ช่วยตรวจความผิดปกติในภาพ X-ray หรือ MRI
  • ระบบไฮไลต์จุดที่น่าสงสัยให้หมอตรวจสอบต่อ
  • หมอทำงานเร็วขึ้น มีข้อมูลช่วยตัดสินใจเบื้องต้น

4. การรักษาความปลอดภัย (Security and Surveillance)
ตัวอย่าง:
บริษัทต้องการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติในภาพวงจรปิดจำนวนมาก
การนำ Generative AI มาใช้:

  • วิศวกรเชื่อม GPT-4 Vision เข้ากับระบบวิเคราะห์วิดีโอ
  • หากพบความผิดปกติ หรือกิจกรรมที่อาจเป็นภัย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าหน้าที่
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวัง ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

Generative AI Engineer vs Data Scientist

แม้ว่า Generative AI Engineer และ Data Scientist จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ:

  • Data Scientist:
    • เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึก
    • ใช้สถิติและ Machine Learning ในการพยากรณ์และตัดสินใจ
    • ทำงานกับข้อมูลเพื่อสร้างโมเดลที่ตอบคำถามทางธุรกิจ
  • Generative AI Engineer:
    • เน้นการพัฒนาและนำโมเดล Generative AI ไปใช้งานจริง
    • มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ ด้วย AI
    • มีทักษะด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ในการพัฒนาระบบที่ซับซ้อน

สรุป: Data Scientist มุ่งเน้นการวิเคราะห์และตีความข้อมูล ส่วน Generative AI Engineer มุ่งเน้นการสร้างและนำ AI มาใช้ในการสร้างเนื้อหาและแอปพลิเคชันใหม่ ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
Data Scientist vs. AI Engineer: IBM Technology

อยากเป็น Generative AI Engineer ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านไหน

1. ความเข้าใจ Generative AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง (ความรู้พื้นฐานที่สำคัญที่สุด)

  • เข้าใจหลักการทำงานของ Large Language Models (LLMs)
  • รู้จักการทำ Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อผสานข้อมูลภายนอกเข้ากับโมเดล
  • เข้าใจวิธีการ Fine-tuning โมเดลและการทำ Prompt Engineering เพื่อควบคุมผลลัพธ์

2. ทักษะด้าน Programming และการพัฒนาโมเดล AI (ทักษะด้านเทคนิค)

  • เชี่ยวชาญ Python หรือภาษาอื่น ๆ เช่น Java, C++
  • ใช้งานไลบรารี AI เช่น TensorFlow, PyTorch
  • เข้าใจการทำ Model Training, Fine-tuning, และการปรับ Optimization ของโมเดล
  • รู้จักการทำงานกับ Vector Database และการใช้ Embedding เพื่อค้นหาข้อมูลและทำ RAG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
generative-ai-engineer-job-python

3. MLOps และการนำ GenAI ไปใช้งานจริง (ทักษะการประยุกต์ใช้)

  • รู้วิธีนำ LLMs ไปใช้ในระบบจริง (Deployment)
  • เข้าใจการทำ API Integration และ Scalability
  • ออกแบบระบบโดยคำนึงถึง Cost และ Performance
  • การเชื่อมต่อระบบ: รู้จักการทำ API Integration กับ Cloud Services และ Third-party APIs เช่น Azure, AWS, GCP
  • การทำ CI/CD และ Testing
  • การใช้ Container (Docker, Kubernetes)

ทักษะเสริมที่สำคัญ:

  • Machine Learning และ Deep Learning พื้นฐาน
  • การจัดการข้อมูลและฐานข้อมูล (SQL, NoSQL, Vector Stores)
  • Cloud Services (AWS, Azure, GCP)
  • System Monitoring และ Performance Optimization

เงินเดือนพื้นฐานของ Generative AI Engineer ประมาณเท่าไร

ในสหรัฐอเมริกา:

  • ระดับเริ่มต้น: $108,043 – $136,620 ต่อปี (ประมาณ 3.8 – 4.8 ล้านบาท)
  • มีประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป: สามารถสูงถึง $128,396 – $172,715 ต่อปี (ประมาณ 4.5 – 6.0 ล้านบาท) ในตำแหน่งผู้นำทีม และอาจสูงถึง $200,000 ต่อปี (ประมาณ 7.0 ล้านบาท) ในบริษัทชั้นนำ

ในออสเตรเลีย:

  • ฐานเงินเดือน: AUD 69,000 – 120,000 ต่อปี (ประมาณ 1.6 – 2.8 ล้านบาท)
  • เงินเดือนเฉลี่ย: AUD 91,000 – 107,000 ต่อปี (ประมาณ 2.4 – 2.5 ล้านบาท)

แนวโน้มการเติบโต:

  • การเติบโตของตำแหน่งงาน 23% ในช่วงปี 2022-2032 (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ 5%)
  • อัตราการจ้างงานเติบโต 74% ต่อปีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก LinkedIn)

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. Coursera AI Engineer Salary Guide 2024 (coursera.org/articles/ai-engineer-salary)
  2. DataCamp Salary Guide 2024 (datacamp.com/blog/how-much-do-ai-engineers-make-guide-to-salaries)
  3. Glassdoor Australia Salaries Report (glassdoor.com.au/Salaries/ai-engineer-salary)
  4. Payscale Australia – Artificial Intelligence Salary Data 2024 (https://www.payscale.com/research/AU/Skill=Artificial_Intelligence_(AI)/Salary)

หมายเหตุ: เงินเดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประสบการณ์ ทักษะ อุตสาหกรรม และสถานที่ทำงาน

แนะนำคอร์สสำหรับ Generative AI Engineer

เราได้รวบรวมคอร์สที่น่าสนใจสำหรับ Generative AI Engineer มาให้คุณได้เลือกเรียนรู้และพัฒนาทักษะของคุณ

ชื่อคอร์สรายละเอียดลิงก์
Introduction to Generative AIคอร์สจาก Google Cloud ที่จะพาคุณเรียนรู้พื้นฐาน Large Language Models และหลักการ Responsible AIดูรายละเอียด
Azure AI Fundamentals: Generative AIคอร์สจาก Microsoft เรียนรู้พื้นฐาน AI บน Azureดูรายละเอียด
Generative AI for Everyoneคอร์สจาก DeepLearning.AI สอนโดย Andrew Ng เรียนรู้การใช้งาน AI ในชีวิตและการทำงานดูรายละเอียด
AWS Generative AIคอร์สจาก Amazon เรียนรู้การสร้าง AI Content และการประยุกต์ใช้ NLPดูรายละเอียด
Generative AI Conceptsคอร์สจาก DataCamp เรียนรู้แนวคิดพื้นฐานของ Generative AIดูรายละเอียด
Generative AI for Beginnersคอร์สจาก Udemy สำหรับผู้เริ่มต้นที่สนใจ Generative AIดูรายละเอียด
Machine Learning, Data Science and Generative AI with Pythonคอร์สจาก Udemy เรียนรู้ ML, Data Science, TensorFlow, GPT, OpenAI และ Neural Networksดูรายละเอียด

แหล่งข้อมูล: รวบรวมจากแพลตฟอร์มการเรียนรู้ชั้นนำ (Google, Microsoft, AWS, DeepLearning.AI, DataCamp, Udemy)

หมายเหตุ: บางคอร์สอาจมีโปรโมชั่นหรือสามารถเรียนฟรีได้ในบางช่วงเวลา

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับอาชีพ Generative AI Engineer มากขึ้น และเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่สายงานนี้ หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ หรือคนที่สนใจได้อ่านกันนะคะ

ถ้าคุณชอบเนื้อหาแนวนี้ ติดตามบทความดี ๆ ด้าน Data และ AI เพิ่มเติมได้ที่:

ทีมงาน DataTH มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ดี ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับผู้อ่าน หากคุณต้องการสนับสนุนเรา สามารถแชร์บทความนี้หรือสนับสนุนผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ ขอบคุณมากค่ะ!

🥰 ถ้าสนใจอาชีพอื่น ๆ เรามีให้อ่านอีกเยอะ คลิกด้านล่างได้เลย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save