สวัสดีครับ จากปีที่แล้วที่แอดเคยพูดถึงงาน TechJam ในเพจกันไป ซึ่งเป็นงานที่สนุกมาก ปีนี้เค้าจัดการแข่งขันอีกรอบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และมีโจทย์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสายต่าง ๆ (ปีนี้เรียกว่า Squad) ได้แก่ Data Science, Coding, และ UI/UX Design มาลับสมองผู้เข้าแข่งขันกันเหมือนเดิมครับ
หลาย ๆ ท่านปีที่แล้วไม่ได้เข้าแข่งขันกัน ปีนี้เค้ากำลังเปิดรับสมัครอยู่ แอดเลยเอาข้อมูลมาฝากทุกท่านกันครับ ไม่อยากให้พลาดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้
ในท้ายบทความนี้จะมีแนะนำภาษาโปรแกรมมิ่งและ Library ต่าง ๆ สำหรับท่านที่สนใจแข่งขันด้าน Data Science ครับผม และเป็น Library ชุดเดียวกับที่แอดใช้แข่งปีที่แล้ว และติดรอบ 25 คนสุดท้ายครับ (แต่ไม่ได้ไปรอบจริงเพราะตอนนั้นไม่ได้อยู่ไทย T_T)
TechJam Thailand 2018 คือการแข่งขันอะไร
TechJam เป็นงานแข่งขันเพื่อค้นหาผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่าง ๆ ที่แนะนำไปข้างต้น (Data Science, Coding, และ UI/UX Design) จัดโดย KBTG หรือบริษัทของธนาคารกสิกรไทยที่กำลังมาแรงในด้านเทคโนโลยีนั่นเองครับ
ในการแข่งขันนี้เราจะได้แก้โจทย์สุดโหดแข่งกับผู้เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะได้วัดฝีมือของตัวเองแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเข้าใจจุดที่เราขาดไป จะได้ศึกษาเพิ่มเติมไปด้วยครับ
โดยรางวัลในการแข่งขัน TechJam 2018 นี้มีมากกว่า 2 ล้านบาท รวมถึงทริปไป Silicion Valley ที่อเมริกา (ซึ่งถ้าไปเที่ยวเองก็เป็นแสนครับ) โดยเค้าแบ่งเป็นรางวัลสำหรับรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค และรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายให้หัวข้อถัดไปครับ
สำหรับใครที่มีเพื่อนที่สนใจแข่งเหมือนกัน ก็สามารถชวนเพื่อนมาแข่งเป็นทีมเดียวกันได้ โดยเค้าจำกัดให้สูงสุดได้ทีมละ 2 คน เพราะฉะนั้นแอดแนะนำให้ไปชวนเพื่อนเก่ง ๆ มาเข้าทีมตั้งแต่วันนี้เลยครับ
รอบการแข่งขันทั้ง 3 รอบ ของ TechJam มีอะไรบ้าง
ในปีที่แล้วมีการแข่งขันทั้งหมด 2 รอบ คือ รอบออดิชั่น แล้วไปรอบตัดสินเลย ซึ่งปีนี้เค้าต้องการจัดงานให้เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศมากขึ้น เลยกลายเป็น 3 รอบ และสองรอบแรกจะแบ่งเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคใต้, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคเหนือ, และภาคกลาง (ภาคตะวันออกถูกรวมอยู่กับภาคกลางครับ)
มาดูรายละเอียดการแข่งขันแต่ละรอบกัน:
รอบแรก ออดิชั่น – แน่นอนว่า Audition ไม่ใช่เกมเต้น (ใครเข้าใจมุกนี้คือเริ่มแก่แล้วนะครับ) แต่เป็นรอบการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันที่มีฝีมือเพื่อเข้าไปแข่งขันในรอบต่อไปครับ โดยเราสามารถเลือกแข่งได้ทั้งแบบ Online (แข่งจากบนเว็บไซต์ได้เลย) หรือแบบ Onground (แข่งที่สถานที่แข่งซึ่งทาง TechJam เตรียมไว้สำหรับแต่ละภาค) ยกเว้นแต่ Data Squad ที่มีแต่ Audition แบบ Online เท่านั้นครับ
รอบสอง ชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค – พอจบรอบแรก ก็จะมีการประกาศผลทีมที่ได้รับคัดเลือกไปแข่งในระดับภูมิภาค โดยจัดแข่งที่สถานที่ต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาค รอบนี้มีเงินรางวัลถึง 30,000 บาทสำหรับทีมที่ชนะเลิศรออยู่ครับ แถมด้วยสิทธิ์ไปแข่งในรอบต่อไป ซึ่งเป็นรอบตัดสินระดับประเทศ
รอบสุดท้าย ชิงชนะเลิศระดับประเทศ – เค้าจะคัดเลือก 20 ทีมจากแต่ละสาขามาแข่งในรอบสุดท้าย โดยแต่ละสาขาจะมี 4 ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละภาค + 16 ทีมที่ได้คะแนนจากรอบที่แล้วสูงสุด รอบนี้มีเงินรางวัลถึง 100,000 บาท พร้อมด้วยแพ็กเกจเปิดประสบการณ์ ณ Silicon Valley รอเราอยู่
นอกจากนั้นทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 และ 3 เค้าก็มีรางวัลเตรียมไว้ให้เช่นกันครับ (แต่ไม่มีตั๋วไป Silicon Valley นะฮะ) สามารถดูรายละเอียดกำหนดการณ์และรางวัลแบบเต็ม ๆ ได้ที่ techjam.tech เลยครับ
วิธีการสมัครเข้าแข่งขัน TechJam
สำหรับท่านที่สนใจสมัครกันแล้ว สามารถสมัครออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ถึง 10 ส.ค. นี้ครับ ขั้นตอนในการสมัครแบบออนไลน์ก็ง่าย ๆ เลยดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ techjam.tech กดปุ่ม Register แล้วกรอกอีเมลและพาสเวิร์ด
- ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปให้ตามอีเมลที่เรากรอกไว้ เข้าไปกดยืนยันอีเมล แล้วเข้าสู่ระบบ Login บนเว็บ TechJam ได้เลย
- กรอกข้อมูลเกี่ยวกับทีม, เลือกได้ว่าจะแข่งรอบ Audition แบบ Onground หรือ Online, และเลือกภูมิภาคที่ต้องการแข่งขัน (1 ทีมสามารถเลือกได้แค่ 1 ภูมิภาคครับ)
- กดปุ่ม Add Member เพื่อเพิ่มรายละเอียดของลูกทีม ถ้ามีคนเดียวก็กรอกคนเดียวครับ
สำหรับคนที่สมัครแข่งรอบ Online ไม่ทันก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถสมัครรอบ Onground Audition ได้โดยไปที่สถานที่สำหรับแต่ละภาคที่เค้ากำหนดไว้ ตามวัน-เวลาที่เค้าแข่งเลยครับผม สามารถดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ techjam.tech ครับ
Channel รับข่าวสารเกี่ยวกับ TechJam Thailand 2018
สำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน หรือสื่อที่สนใจ สามารถติดตามการอัพเดทต่าง ๆ ได้จากหลากหลายช่องทางดังนี้ครับผม:
- เว็บไซต์ TechJam: techjam.tech
- Youtube: TechJam Thailand
- Facebook: TechJam Thailand
- Twitter: TechJam Thailand
เทคนิคเตรียมตัวแข่ง สำหรับ Data Squad
ออกตัวไว้ก่อนว่าแอดมินไม่ได้เป็นคนจัดการแข่งขันนะครับ เพราะฉะนั้นคำแนะนำอันนี้มาจากข้อมูลที่ได้รับมาในปีนี้บนเว็บไซต์ หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่สนใจร่วมแข่งทุกท่านครับ
สำหรับโจทย์ปัญหาของ Data Squad จะเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนา Prediction Model
เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เลือกศึกษา Python หรือ R ก็ได้ เพราะทั้ง 2 ภาษานี้มี Library ต่าง ๆ รองรับในการทำวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนาโมเดลครบอยู่แล้วครับ (เลือกแค่ภาษาใดภาษาหนึ่งก็พอครับ)
คำแนะนำสำหรับสาย Python
ถ้าใครสนใจใช้ Python สามารถ ศึกษาคอร์ส Python for Data Science เบื้องต้นของ Udacity ที่เคยแนะนำกันไปได้ครับ และศึกษาในเรื่องของ การทำความสะอาดข้อมูลด้วย Pandas, การทำ Feature Engineering หรือการเลือกฟีเจอร์ ซึ่งสำคัญมากเวลาทำโมเดล, และการสร้างโมเดลทำนายผลด้วย Library Scikit-learn ครับ ซึ่ง Library เหล่านี้เป็นของที่แอดมินใช้ตอนแข่งปีที่แล้วนั่นเอง (ยกเว้น FeatureTools)
คำแนะนำสำหรับสาย R
ข้อเสียเล็กน้อยของ Python คือ การ Setup ระบบครั้งแรกอาจจะงงเล็กน้อยครับ ถ้าใช้ R จะสะดวกกว่าตรงที่ติดตั้งโปรแกรม RStudio แล้วเริ่มแก้โจทย์ปัญหาได้เลย
ส่วนถ้าใครชอบแบบเริ่มต้นง่าย ๆ แอดก็แนะนำให้ใช้ R ครับ โดยเริ่มศึกษาได้จาก 6 แหล่งเรียนพื้นฐาน R ฟรี (ภาษาไทย และอังกฤษ) แล้วศึกษาการจัดการข้อมูลด้วย Dplyr, การทำความสะอาดข้อมูลด้วย Tidyr, ไปจนถึงการสร้างโมเดลด้วย Caret
แหล่งศึกษาเพิ่มเติม
ส่วนถ้าใครอยากฝึกฝีมือในการแก้โจทย์ด้าน Data Science ก่อนแข่ง TechJam แอดแนะนำให้ไปลองแก้โจทย์ใน Kaggle ครับ ในนั้นมีตัวอย่างโค้ดจากคนเก่ง ๆ ทั่วโลกมาให้เราศึกษาด้วยครับผม
ไปสมัคร TechJam กันเลย
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ ถ้าพร้อมแล้วอย่าลืมไปสมัครแข่งกันที่เว็บไซต์ Techjam.tech ครับผม แค่ได้ไปลองแก้โจทย์รอบ Audition แอดคิดว่าก็คุ้มมากแล้วครับ