สัมภาษณ์คุณแจน: นักศึกษาปริญญาโท Data Science ที่ Monash University

data science student monash university

เมื่อกระแส Data Science มาแรง คนรอบๆตัวเราก็หันมาสนใจศึกษาด้านนี้กันมากขึ้น เราก็เลยจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับคนๆหนึ่งที่ตัดสินใจเรียนต่อโทในด้านนี้ ว่าทำไมถึงตัดสินใจเรียนต่อ เรียนแล้วเป็นอย่างไร ได้อะไรกลับมาบ้าง คนย้ายสายมาจะทำได้หรือไม่ พร้อมกันแล้วรู้จักคุณแจนกันเลยค่ะ

บทสัมภาษณ์คุณแจน นักศึกษาปริญญาโท Data Science

แอดเหมียว: สวัสดีค่ะคุณแจน รบกวนแนะนำตัวให้เรารู้จักกันสักหน่อย ว่าเป็นใคร และตอนนี้ทำอะไรอยู่

คุณแจน: ตอนนี้เป็น นักศึกษาปริญญาโท Data Science ที่มหาลัย Monash ประเทศออสเตรเลีย กะลังศึกษาเทอมสุดท้าย มีทำงาน Part time ระหว่างเรียนไปด้วยบ้างค่ะ

แอดเหมียว: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะว่าการเรียนปริญญาโท Data Science เป็นอย่างไรบ้าง

คุณแจน: การเรียนปริญญาโทที่นี่ก็จะเป็นแบบเรียนทั้งหมดประมาณ 16 ตัว โดยที่เทอมแรกๆจะเน้นปูพื้นฐาน สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนได้ เทอมต่อๆมาก็จะเน้นเรื่องที่แอดวานซ์มากขึ้นอย่างพวกการคลีนข้อมูล การสร้างโมเดลแบบง่ายๆจนถึงแบบที่ซับซ้อน

เทอมสุดท้ายของเราจะเป็นงานกลุ่มการสร้างเว็บไซท์ร่วมกับเพื่อนๆอีก 3 – 4 คน เป็นจุดที่เรียกว่าได้พัฒนาเยอะมากทั้ง soft skill และ hard skill เพราะเป็นการทำงานร่วมกับคนจากหลายชาติ ความถนัด ต่าง Background

แอดเหมียว: น่าสนใจมากเลยค่ะ บอกเราหน่อยได้มั้ยคะว่า ทำไมอยู่ๆถึงมาเรียน Data Science

คุณแจน: เพราะว่าตอนแรกเรียนคณิตศาสตร์ประกันภัยซึ่งเน้นพวกเลขและสถิติมา แล้วอยากจะเพิ่ม value ให้มากขึ้นโดยเสริมการเขียนโปรแกรมเข้าไป เพื่อที่เราจะมีความเข้าใจการทำงานกับข้อมูลได้ง่ายขึ้น และเอาไปใช้ประโยชน์ได้

นอกจากนี้เรายังสามารถนำความรู้ ทักษะไปใช้กับงานได้หลายสาขา เพราะในทุกๆที่ก็มีการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้งาน หา insight พัฒนาตัวเอง ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด

ตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าอยากทำงานด้าน Computer Vision หรือ เน้นไปทาง เลขและสถิติล้วนๆเลยดี

Jan Monash
คุณแจน นักศึกษาปริญญาโท Monash

แอดเหมียว: งั้นคุณแจนก็ย้ายสายมา ตอนเริ่มยากไหมคะ

คุณแจน: เราเองถือว่าย้ายมาในสายที่ใกล้เคียง จากคณิตศาสตร์ประกันภัยมา Data Science ถือว่ามีเลขกับ ทักษะการวิเคราะห์เป็นตัวเชื่อม แต่ก็รู้สึกยากเหมือนกันค่ะในช่วงแรกๆ

ใครจะย้ายมาจากสายที่ไม่ใกล้เคียงก็ถือว่ายังเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าชอบทางด้านนี้และอยากทำงานด้านนี้จริงๆ ก็สามารถลองเรียนรู้พื้นฐานเล็กน้อยด้วยตัวเองก่อนได้

การลงเรียนมหาลัยก็ช่วยเหมือนกัน และที่สำคัญที่สุดการได้ลองทำโปรเจคจริงๆ จะช่วยเราได้เยอะมาก
Kaggle ก็เป็นหนึ่งเว็บไซต์ที่มีโปรเจคให้เราดูมากมาย มี Open Data ให้เราใช้ได้ฟรีๆ และมีการแข่งขันให้เราลองอีกด้วย

แอดเหมียว: อะไรคือสิ่งที่รู้สึกว่า challenge ที่สุดตั้งแต่เริ่มเรียนด้านนี้มาคะ

คุณแจน: สิ่งที่ challenge ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียน หรือการทำงานด้าน Data Science ก็คือการที่เราต้องคอยอัพเดท เรียนรู้ตลอดเวลา เพราะว่าถ้าเราหยุดปุ๊ป ก็เหมือนว่าเราตกยุคไปเลย (ขำเบาๆ)

เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นอะไรที่ต้องทำ ต้องฝึกฝนตลอดเวลา เพราะว่าการเขียนโปรแกรมนั้นเราไม่สามารถเรียนรู้จนชำนานได้ในระยะเวลาสั้นๆ อย่างต่ำก็หนึ่งเดือนหรือครึ่งปีเพื่อที่เราจะเก่งในแต่ละภาษานั้นๆ และก็ขึ้นอยู่กับว่าเราขยันทำโปรเจค เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน

สิ่งที่รู้สึกว่ายากที่สุดก็น่าจะเป็นการสะสมประสบการณ์เนี่ยละค่ะ

แอดเหมียว: ได้ข่าวว่าคุณแจนมีไปฝึกงานในออสเตรเลีย เป็นอย่างไรบ้างคะ

คุณแจน: การฝึกงานที่ออสเตรเลียรู้สึกว่ามันเป็นสังคมที่เปิด ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะอายุเท่าไร มาจากไหน ทุกความคิดเห็นคือมีค่าหมดสำหรับเค้า เปิดรับฟังทุกอย่าง

เริ่มฝึกงานที่บริษัท Startup แห่งหนึ่งเลยได้ลองทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะเป็นบริษัทเล็กๆ แล้วเราก็ทำงานที่มากกว่า Data Science เช่นได้ลองทำ ETL ซึ่งจริงๆจะเป็นหน้าที่ของ Data Engineer แต่ก็เป็นอะไรที่ดีที่เราได้เรียนรู้เพิ่มเข้ามา และก็ยังได้ลองใช้ AWS ซึ่งในมหาลัยไม่มีสอน

การฝึกงานทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่หลายๆอย่างนอกห้องเรียน และได้ใช้ความรู้ สกิลที่เราเรียนมาโดยตรงด้วย ถึงจะรู้สึกหนักแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีค่า

Jan 1
คุณแจน นักศึกษาปริญญาโท Monash

แอดเหมียว: แล้วการฝึกงาน การสมัครงานที่นี่ยากไหม มีขั้นตอนยังไงบ้างคะ

คุณแจน: ที่นี่หาโอกาสในการฝึกงานค่อนข้างง่าย ถ้าเป็น Startup แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Unpaid แต่ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะว่าเราจะได้เรียนรู้ และฝึกสกิลที่เราเรียนมา ก่อนที่จะไปทำงานจริงๆในบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทที่รับเราทำงานแบบ full time

ถือว่าเป็นขั้นแรกที่เราจะได้เรียนรู้ และส่งเสริมเราในการทำงานในอนาคต สมัครงานกับบริษัท Startup ค่อนข้างไม่ซับซ้อนเพราะว่าเราสมารถส่งเรซูเม่ไปทางอีเมลได้เลย แต่ทางที่ดีกว่าคือผ่าน Linkedin ซึ่งค่อนข้างเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสมัครงานที่นี่และสร้าง Connection

ก่อนจะได้เข้าไปทำงานก็จะมีสัมภาษณ์ แล้วแต่บริษัทว่าจะสัมภาษณ์กี่รอบ บางบริษัทก็จะส่งแบบทดสอบวัดความรู้มาให้ทำก่อนที่จะได้เข้าไปสัมภาษณ์ด้วย การสมัครงานที่นี่ มีการเเข่งขันค่อนข้างสูง และจะมีรายละเอียดเรื่องวีซ่าค่อนข้างเยอะ ก็ต้องเตรียมตัวดีๆก่อนสมัครงาน

แอดเหมียว: มีอะไรแนะนำสำหรับคนที่อยากศึกษาด้าน Data Science ไหม ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

คุณแจน: รู้สึกว่าเลขกับสถิติเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะคนหลายๆคนจะเก่งด้านการเขียนโปรแกรมมาก มีพื้นฐานที่ดี แต่เอาเข้าจริงๆ Data Science ต้องทำงานกับข้อมูลเยอะ แล้วต้องมีการวิเคราะห์ค่อนข้างลึก เพื่อที่จะดึงสิ่งที่อยู่ข้างในข้อมูลมาใช้ ซึ่งก็ต้องใช้เลขกับสถิตินั่นเอง

ถ้าเรามีความรู้ตรงนี้ก็เหมือนกับว่าเรามี logic ในหัว มีขั้นตอนว่าเราต้องทำอะไร ยังไงบ้าง การเขียนโปรแกรมมันเป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนเพิ่มเติมเสริมจากตรงนี้ได้ง่ายกว่าที่เราจะไปรียนทฤษฎีทีหลัง

สรุปก็อยากแนะนำให้พยายามเข้าใจเลข สถิติและ การทำงานกับข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

แอดเหมียว: แล้วตั้งแต่เรียน ฝึกงานมามีอะไรที่รู้สึกไม่ชอบใน Data Science บ้างไหมคะเนี่ย

คุณแจน: ส่วนตัวไม่ชอบทำงานที่เกี่ยวข้องกับ Database หรือฐานข้อมูล ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญและก็ต้องใช้งานจริงอยู่บ่อยๆ เพื่อดึงข้อมูลที่เราต้องการใช้ออกมา

ถ้าถามว่าทำได้ไหมก็ต้องบอกว่าทำได้ แต่ถ้าให้เลือกจะชอบด้านการวิเคราะห์ข้อมูล หรือพวก Machine Learning มากกว่า ไม่ค่อยชอบการเขียนภาษา SQL ซึ่งเป็นภาษาในการทำงานกับ Database

Jan 2
คุณแจน นักศึกษาปริญญาโท Monash

แอดเหมียว: สิ่งที่ภูมิใจนำเสนอที่สุด ตั้งแต่ได้เข้าวงการ Data Science

คุณแจน: ได้ทำโปรเจคหนึ่งใน Advance Data Analysis แล้วเราเข้าใจทุกอย่างที่ทำซึ่งมันรู้สึกดีมากๆ และโปรเจคนั้นก็ยังถูกนำไปโชว์ เป็นตัวอย่างให้เพื่อนคนอื่นๆ

อีกโปรเจคหนึ่งคือ โปรเจคสุดท้ายที่เพิ่งทำเสร็จไป ซึ่งเป็นงานกลุ่มที่เราได้ลองทำเอง ภายในสองสามเดือนเราได้สร้างโปรดักของเราขึ้นมาเอง เหมือนกับการจำลอง Startup เลย ทั้งๆที่ไม่เคยใช้เครื่องมืออะไรหลายๆอย่าง เช่น WordPress, php และส่วน Backend

แอดเหมียว: สุดท้ายนี้ มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากมาทำงานอาชีพ Data Scientist บ้างมั้ยค

คุณแจน: จริงๆแล้วรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาดีๆ จบตรีแล้วมาต่อโทเลย เลยรู้สึกว่าขาดความรู้และประสบการณ์บางอย่าง เพราะการเรียนต่อปริญญาโทเป็นเหมือนการเพิ่มพูนความรู้ที่เรามีอยู่แล้ว เรียนนอกห้องเรียนด้วยตัวเอง

ตอนเข้าไปตอนแรกเหมือนมาเริ่มใหม่หมดจากศูนย์ และรู้สึกว่าเป็นการเรียนที่หนักหน่วงมาก ทั้งๆที่เพื่อนๆหลายๆคนจบ Computer Science, Software Engineering มาก็จะมีความรู้ทางๆด้านการเขียนโปรแกรมติดตัวมาอยู่แล้ว

อยากให้เพื่อนๆศึกษาการเขียนโปรแกรมที่เป็นพื้นฐาน รวมถึงเลขและสถิติพื้นฐานมาก่อนให้พอมีความรู้นำมาปรับใช้ได้ ซึ่งเป็นการเตรียมตัวที่ดีก่อนที่จะเจอ

ในกรณีที่ลองศึกษาด้วยตัวเอง แล้วเป็นทำได้ มี commitment สูง การเรียนด้วยตัวเองก็เป็นอะไรที่ได้เยอะเหมือนกัน เพราะว่าส่วนตัวมาเรียนมหาลัยเพื่อที่จะได้มี commitment ในการเรียน แต่จริงๆแล้วก็เหมือนเรียนด้วยตัวเองทั้งหมดนั่นแหละ แล้วมีอะไรข้องใจค่อยไปปรึกษาอาจาร์ย หรือคุยกับเพื่อนๆ

แอดเหมียว: ขอบคุณคุณแจนมากๆเลยนะคะที่มาแบ่งปันกันในวันนี้

คุณแจน: ได้เสมอค่ะ ถ้าใครสงสัยหรือมีคำถามอะไรก็ถามเข้ามาได้นะคะ

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจนะคะ ลองมาเข้ามาดูข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจได้ที่นี่เลย

คุยกันท้ายบทความ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบัลดาลใจให้เพื่อน ๆที่อยากเริ่มศึกษา Data Science กันนะคะ และหากชอบบทความนี้ ก็อยากให้เพื่อนๆช่วยแชร์ให้คนอื่นๆ ได้มาอ่านบทความนี้ด้วยกันนะคะ

ถ้าชอบเนื้อหาแนวนี้ ติดตามบทความดี ๆ ด้าน Data และวีดิโอสนุก ๆ ดูชิล ๆ แล้วได้ความรู้กันได้ที่ Facebook Page: DataTH และ Youtube Channel: Data Science ชิลชิล แล้วเจอกันนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save