[Free Download] หนังสือดี เทคนิคหางาน, วิธีทำ Resume, สัมภาษณ์ Career Development Handbook ของ MIT

Career-Development-Handbook-MIT-Cover

วงจรชีวิตของเราส่วนใหญ่ เมื่อจะก้าวเข้าสู่การเรียนระดับมหาวิทยาลัย ก็คือการเลือกคณะหรือสถาบันการศึกษา กิน นอน เรียน สอบ สุดท้ายจบมาก็หางานทำวนไป

หากย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่แอดเรียนป. ตรีหรือ ป. โท อินเตอร์เน็ตและข้อมูลต่าง ๆ ไม่ได้แพร่หลายเหมือนสมัยนี้ การที่จะวางแผนว่าจะเรียนอะไรไป จบแล้วทำอะไร หรือมีโอกาสอื่นใดบ้าง ข้อมูลเหล่านี้ค่อนข้างจะจำกัด

ถ้าจะมีก็จะเป็นชั่วโมงแนะแนวหรือครูแนะแนวในโรงเรียนมัธยม ที่ถ้าใครโชคดีก็อาจจะได้รับคำแนะนำดี ๆ ที่อาจจะช่วยเป็นไกด์ให้เลือกในสิ่งที่เหมาะกับความชอบและความสามารถของเรา

แต่โลก ณ ตอนนี้ เราสามารถเตรียมตัวเพื่อหางานได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการหาข้อมูลและใช้มันมาประกอบการพิจารณาเพื่อให้เราวางแผนอนาคตในเรื่องการเรียนและการหางานได้ดีขึ้น

วันนี้ แอดนำเอาหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าจะเป็นไกด์ไลน์และมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่กำลังจะหางานเได้ดีอีกเล่มหนึ่ง

“คู่มือแนะแนว” ที่ว่านี้ก็คือ หนังสือ Career Development Handbook จัดทำโดยสถาบันชื่อดัง MIT – Massachusetts Institute of Technology นั่นเอง

book career development mit v1

หน้าปกหนังสือคู่มือ Career Development Handbook ของ MIT

หนังสือ Career Developement Handbook ของ MIT พูดเรื่องอะไรบ้าง

หนังสือคู่มือเล่มนี้ ด้านในแบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่หนึ่ง Career Development Process กระบวนการพัฒนาอาชีพ

ส่วนแรกสุดนี้จะเริ่มต้นด้วยการบอกวัตถุประสงค์ว่า ทางสถาบันต้องการให้นักศึกษารวมถึงผู้ที่จบออกไปแล้ว สำรวจเป้าหมายของชีวิตและอาชีพที่ตนเองสนใจได้ผ่านทางการพัฒนาตนเองและเน็ตเวิร์คแบบมืออาชีพ แนะนำฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในสถาบันก่อน (จะมีชื่อหน่วยงานและลิงก์ให้ไปติดต่อหากสนใจ)

choice of major mit career

ตารางเพื่อช่วยในการพิจารณาตัดสินใจเลือกวิชาเอกที่เหมาะกับตนเอง จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องของการทดสอบตนเอง โดยการแนะนำขั้นตอนและมีแบบทดสอบให้กรอกเพื่อจะได้มองเห็นตัวเองและเป้าหมายให้ชัดขึ้น

เขายังมีเช็คลิสต์สำหรับคนที่ลังเลไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกวิชาเอกไหน มีไทม์ไลน์เพื่อช่วยในการวาง

แผนว่าต้องใช้ระยะเวลามากแค่ไหนและควรพิจารณาเรื่องอะไรก่อนหลังสำหรับการเลือกวิชาเอกนั้น ๆ อีกด้วย

Getting-Experience-in-many-forms

รูปแบบกิจกรรมที่สามารถเพิ่มพูนประสบการณ์ของเราได้ จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

ส่วนที่สอง Getting Experience and the Job Search การหาประสบการณ์และการหางาน

แอดมองว่าตรงนี้เราสามารถเข้าไปอ่านและใช้ประโยชน์หรือทิปในการเตรียม resume และหางานได้ค่อนข้างดีเลย โดยเขาจะแนะนำว่าจะไปหาประสบการณ์ (เพื่อที่จะใส่ไปใน resume) ได้อย่างไรบ้าง

อิทธิพลของโซเชียลมีเดียที่มีต่อการหางาน ซึ่งตรงนี้ ข้อมูลบางอย่างอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาที่เปลี่ยนไป แต่บางคำแนะนำก็ยังมีประโยชน์ตลอดกาล เช่น เตือนเรื่องเซนซิทีฟที่ควรระวัง ไม่ควรโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตน

To-attend-JobFair-Preparation

ข้อควรปฎิบัติเมื่อไปร่วมงาน Career / Job Fair จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

ไฮไลท์ของพาร์ทนี้ คือ การสร้างโปรไฟล์ใน Linkedin ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อการหางานแบบมืออาชีพและคนที่คิดอยากจะหางานทำในต่างประเทศ

ช่วงท้ายยังแถมเรื่องการไปเข้าร่วมกิจกรรมหางาน – Job fair ต่าง ๆ ว่าต้อง เตรียมตัวและแต่งตัวอย่างไร รวมถึงคำถามที่เราอาจจะได้เจอเมื่อไปตามงานเหล่านี้ รวมถึงการแนะนำตัวในเวลาสั้น ๆ เพื่อดึงดูดใจคนสัมภาษณ์ เป็นต้น

Elevator-Pitch-Interview-steps
Elevator Pitch Interview steps

คำแนะนำในการแนะนำตัวเองเพื่อให้ดึงดูดใจผู้สัมภาษณ์งาน จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

ส่วนที่สาม Resumes and Career Writing การเขียนเรซูเม่และการเขียนเชิงวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง

Resume ซึ่งถือเป็นอาวุธด่านแรกที่ทางผู้จ้างจะได้อ่านและพิจารณาเบื้องต้น ต้องยอมรับว่าต่อให้เรามีของ มีความสามาถแค่ไหน แต่ถ้าเขียน resume ได้ไม่ดี ไม่ตรงจุด ไม่น่าดึงดูดใจ เราก็อาจจะชวดงานนั้น ๆ ได้ ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้เข้าไปคุยหรือแสดงศักยภาพในเห็น

ส่วนนี้จะแนะนำเทคนิคการเขียน resume และมีตัวอย่างให้ดู ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น คู่มือได้แนะนำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ทรงพลังและควรนำไปใช้ใน resume ของเรา เช็คลิสต์สิ่งที่ควรระบุไว้

Sample-How-To-write-Resume
Sample How To write Resume

ตัวอย่าง การเขียน resume สำหรับผู้ที่จบระดับปริญญาเอก จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

นอกจากนี้ คู่มือยังได้แนะนำการเขียน CV – Curriculum Vitae ซึ่งสารภาพว่าตัวแอดเองก็สับสนอยู่ว่าอันไหนควรเรียนว่าอะไร CV vs Resume ต่างกันอย่างไร และใช้ในสถานการณ์ไหนบ้าง

บอกได้คร่าว ๆ ว่า CV นั้นจะเป็นลิสที่บอกถึงสิ่งที่เราเคยเรียนมาและทำมาทั้งหมด ส่วน Resume อาจจะเลือกพูดถึงแค่บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ทำให้ CV ส่วนมากจะมีความยาวหลายหน้าได้ ในขณะที่ Resume จะนิยมทำให้สั้นและกระชับ และ CV ส่วนมากจะใช้ในวงการวิชาการหรือเกี่ยวกับราชการเสียมากกว่า ส่วน Resume ใช้กับงานทั่วไป

จริง ๆ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้รายละเอียดก็สามารถเข้าไปอ่านพาร์ทนี้เพิ่มเติมจะได้ความกระจ่างมากขึ้น

พอมี Resume / CV แล้ว อันดับถัดไปที่เราควรต้องมี และแต่ละงานที่สมัครอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเนื้อความในจดหมายเพื่อให้เหมาะสมที่สุด

ใช่แล้วค่ะ แอดกำลังพูดถึง Cover Letter แอดชอบความละเอียด เป๊ะ ปังเว่อร์ ที่คู่มือเขาพยายามจะอธิบายและยกตัวอย่างให้เราเห็นว่า เราควรเขียน Cover Letter อย่างไร

Sample-How-To-Write-CV-1
Sample-How-To-Write-CV-2
ตัวอย่างการเขียน CV – จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

และการเขียนจดหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น จดหมายขอโอกาสในการสัมภาษณ์ เลื่อนนัดสัมภาษณ์ ขอบคุณ ติดตามเรื่อง การปฏิเสธ การเจรจาต่อรอง ฯลฯ เราควรเขียนตอบกลับอย่างไรให้สุภาพ น่ารัก และดูมืออาชีพ

ส่วนที่สี่ Interviewing and the Job Offer การสัมภาษณ์งานและข้อเสนอในการทำงาน

ขั้นต่อมาของการจะได้คือต้องผ่านด่านสัมภาษณ์เสียก่อน มีการสัมภาษณ์ผ่านช่องทางหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ วีดีโอคอล หรือการสัมภาษณ์ตัวต่อตัว

ในพาร์ทนี้จะมีทริคหลายอย่างในการสัมภาษณ์งาน ขั้นตอนการเตรียมตัว ระยะเวลาที่เหมาะสมในการแนะนำตัว เคสต่าง ๆ ที่อาจจะเจอระหว่างการสัมภาษณ์ รวมถึงข้อผิดพลาดที่เรามักจะเผลอทำกันบ่อย ๆ

Interview-Etiquette

คำแนะนำ มารยาทที่ควรทำในการสัมภาษณ์งาน จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

นอกจากนี้ คนที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรเมื่อเจอคำถามที่ว่า “มีอะไรอยากถามไหมคะ /ครับ?” เขาก็มีตัวอย่างคำถามมากมายให้เราไว้เลือกใช้ แนะนำมารยาทที่ควรทำ

และสุดท้ายมีเช็คลิสต์สำหรับช่วยในการตัดสินใจกับข้อเสนอที่เขามอบให้ การคำนวณฐานเงินเดือนเบื้องต้น รวมถึงเทคนิคในการต่อรองต่าง ๆ ที่แอดพูดได้คำเดียวว่า “ไม่ควรพลาด”

Job-Search-What-Can-be-Negotiated-Offer-Negotiation

ตารางแสดงสิ่งที่สามารถต่อรองได้ – ได้บ้าง และปกติแล้วจะต่อรองไม่ได้จากข้อเสนอที่ได้รับ จากหนังสือ Career Development Handbook ของ MIT

ส่วนที่ห้า Academic Pathways เส้นทางสายวิชาการ

ส่วนสุดท้ายและเป็นส่วนที่แอดมองว่าสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เนื่องจากชีวิตเราคือ Longlife Learning (การเรียนรู้ตลอดชีวิต) ดังที่จะเห็นคนรอบตัวจำนวนไม่น้อยที่หลังจากเรียบจบ ทำงานได้พักหนึ่งและวางแผนที่จะเรียนต่อไปในระดับที่สูงขึ้น หรือแม้แต่ไปเรียนสาขาอื่น ๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องเลยกับที่เคยเรียนมาก็ได้

และในส่วนนี้เอง คู่มือได้แนะนำการเรียนต่อ การเตรียมตัว – เอกสารต่าง ๆ และมีไทม์ไลน์ตัวอย่างให้ไปประกอบการวางแผนด้วย

ยามที่เราจะทำเรื่องเรียนต่อ ส่วนใหญ่จะต้องเตรียมเอกสารที่ชื่อ SOP – Statement of Purpose หรือ บทความแนะนำตัวเพื่อใช้ในการเรืยนต่อ โดยในพาร์ทนี้ก็มีการแนะนำรายละเอียดในการเขียน SOP อย่างเป็นขั้นตอน

ส่วนคนที่หางานด้านวิชาการหรืองานวิจัยตามสถาบันต่าง ๆ เขาก็จะมีตัวอย่างพร้อมคำแนะนำในการวางแผนและเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวอย่างให้นำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วย ซึ่งก็เป็นไกด์ไลน์ให้คนที่ไม่เคยทำมาก่อนได้เป็นอย่างดี

ดาวน์โหลดหนังสือคู่มือเล่มนี้ได้ที่ไหน

เพื่อน ๆ บางคนอาจจะอ่านบทความด้านบนได้ครึ่งทางแล้วรู้สึกตื่นเต้น โอ้ย ไปหาดาวน์โหลดคู่มือ Career Development Handbook ของ MIT นี้ได้ที่ไหน

อย่าสาปแอดเลยนะคะที่แอดเหมือนแกล้งเลยเนอะ เอามาไว้อยู่ด้านล่างสุดของบทความ

เอาล่ะ ใครที่สนใจอยากอ่านหนังสือคู่มือเล่มนี้สามารถเข้าไปดาว์นโหลดได้เลยค่ะ ที่: https://capd.mit.edu/resources/career-handbook/

หวังว่าหนังสือคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนสมัครงาน หรือแม้แต่วางแผนจะไปสมัครเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น

วิธีขั้นตอนการเขียนเอกสารต่าง ๆ ที่แทบจะจับมือทำของหนังสือเล่มนี้เป็นไกด์ไลน์ที่ดีสำหรับมือใหม่ รวมถึงเป็นเหมือนเช็คลิสทบทวนสำหรับมือเก่าเพื่อทำให้เอกสารของเราดีและสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม

ถึงแม้ว่าคู่มือฉบับที่แอดกำลังแนะนำนี้จะเป็นภาษาอังกฤษล้วน แต่เชื่อเถอะว่าเนื้อหาหลายอย่างสามารถนำประยุกต์ไปใช้ในภาษาไทยหรือภาษาอื่น ๆ ได้สบายมากค่ะ

สุดท้าย แอดขอให้ทุกคนโชคดีในการหางานหรือเรียนต่อในอนาคต ใครมีข้อสงสัยหรืออยากแนะนำ อยากคุยกันสามารถเข้ามาที่เพจ Facebook ของ DataTH เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ และถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ก็สามารถช่วยแชร์หรือบอกต่อให้กับคนอื่น ๆ ได้ค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save