งานด้าน Business Intelligence ถือเป็นสายงานที่สำคัญในการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในองค์กร ซึ่งจะก่อให้เกิดองค์กรที่เป็น Data-Driven Organization นั่นเองครับ และวันนี้แอดก็มีโอกาสได้พูดคุยกับน้องมายด์ BI Report Specialist ที่ TrueMoney เพื่อมาเจาะลึกกันว่าสายอาชีพด้านนี้เค้าทำอะไรกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะอยากทำงานเป็น Data Scientist หรือ Data Engineer ท้ายที่สุดแล้วโมเดลหรือข้อมูลที่เราวาง Architecture มาอย่างยากลำบากก็จะไหลไปถึงมือของคนทำงาน BI กับ Data Analyst ในที่สุดครับ
บทความนี้เป็นบทความแรกในซีรีย์สัมภาษณ์อาชีพสาย Data Science ต่าง ๆ เพื่อให้เราเข้าใจพวกเค้ากันมากขึ้น และให้คนที่สนใจได้รู้ด้วยว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง สำหรับคนที่สนใจงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Data Analyst, Data Scientist, และ Data Engineer หรือแม้แต่ Machine Learning Engineer ก็สามารถติดตามบทความในอนาคตได้เร็ว ๆ นี้เลยนะครับ
บทสัมภาษณ์มายด์ BI Report Specialist แห่ง TrueMoney
แอดเพิร์ธ: สวัสดีครับน้องมายด์ ก่อนอื่นแนะนำตัวนิดนึงว่าทำอาชีพอะไรอยู่ และอาชีพนี้มีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง
มายด์: ตอนนี้เป็น BI Reporting Speacialist อยู่ที่บริษัท TrueMoney ค่ะ หน้าที่หลัก ๆ ของเราก็คือ Implement report และ dashboard ให้ครอบคลุมกับมุมมองของ Business โดยที่ Report และ Dashboard ที่เรา provide ให้ business นั้นจะต้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อม Support business ทุกที่ทุกเวลาค่ะ รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลที่จะใช้และการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Report เพื่อช่วยให้ Business เข้าใจข้อมูลมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจริง ๆ แล้วในงานลักษณะเดียวกันนี้หลาย ๆ บริษัท อาจจะมีชื่อเรียกตำแหน่งหน้าที่นี้ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ Scope หลักของงาน อย่างเช่น
- Data Analyst ก็จะเน้นเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหลักและมีการทำ Visualization เพียงเล็กน้อย
- หรือบางที่อาจจะเรียกว่า Bussiness Reporting Analyst, MIS & Reporting หรือ Business Intelligence Developer
เพราะฉะนั้นถ้าใครสนใจอยากสมัครงาน BI ลองดู Scope งานกันก่อนนะคะ
แอดเพิร์ธ: สายงาน BI นี่น่าสนใจมาก ๆ เลยนะครับ ก่อนหน้านี้น้องมายด์เรียนจบอะไรมา และทำไมถึงมาทำงานนี้
มายด์: มายเรียนจบจาก คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งคณะมายเขาจะให้เรียนเหมือนกันใน 2 ปีแรก แล้วพอปี 3 ก็จะเริ่มให้แยกสายไปตามที่ตัวเองสนใจ เอาจริง ๆ ถามว่าเรารู้ตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือเปล่าว่าอยากเรียนสายนี้ ก็ไม่เชิงนะคะ ตอนนั้นเรารู้แค่ว่าเราไม่ได้การเขียน code ไม่ได้ชอบการวาง network ที่รู้สึกว่าเราน่าจะไปได้มากที่สุดก็คือสายนี้แหละ เลยเลือกสาย Business Intelligence
พอได้เรียนแล้วเราก็ชอบนะ รู้สึกว่ามันไม่ได้โหดร้ายกับเราเท่าวิชาในสายอื่น 555 พอเราได้เรียนสายนี้มันเลยทำให้เราพอมีพื้นฐานเรื่อง Data ติดตัวมา หลังจากเรียนจบก็ลองงานอื่นอยู่ 6 เดือน จนเราก็ได้รู้ว่า เออ เราชอบ Query + ชอบทำ Report แฮะ ทำแล้วรู้สึกว่างานที่เราทำออกมามันมี Value มีคนเอาสิ่งที่เราทำไปใช้ประโยชน์ต่อได้จริง ก็เลยลองหางานสายนี้ดู ตอนนี้ก็ทำมาได้ 1 ปีแล้วค่ะ
แอดเพิร์ธ: ขอกลับมาที่เรื่องงานที่ทำอยู่หน่อยนะครับ ตอนนี้บริษัท TrueMoney ที่น้องมายด์ทำอยู่มีการขายสินค้าหรือบริการอะไรบ้างครับ และมีการนำ Data มาใช้มากน้อยแค่ไหน
มายด์: ทรูมันนี่ เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ E-wallet ค่ะ มี service ที่ให้บริการหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น เติมเงินมือถือ, ซื้อแพคเกจเน็ต, จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ สามารถใช้จ่ายที่ 7-Eleven และร้านค้าได้อีกมากมาย
บริษัทเราให้ความสำคัญกับ Data Driven เป็นอย่างมาก โดยตัวบริษัทจะเน้นเรื่องของการนำ Data มาช่วยในการวิเคราะห์ ตัดสินใจ และขับเคลื่อน Business ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
ที่ TrueMoney เป็นบริษัทที่เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และมี Data ที่พร้อมสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้งาน ที่สำคัญในยุค cashless society แบบนี้ก็อย่าลืม โหลด truemoney wallet มาใช้กันนะคะ 5555555 #ขายตรง
แอดเพิร์ธ: มาคุยเรื่องงานที่น้องมายด์ทำอยู่กันบ้าง รบกวนเล่าให้ฟังสักหน่อยได้มั้ยครับ ว่าในวันนึง BI Reporting Specialist ต้องทำอะไรบ้าง เราต้องประสานงานกับใครบ้างมั้ย
มายด์: สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันก็คือเมื่อ Business มีความต้องการ Dashboard ใหม่ๆ เขาก็จะมาติดต่อเรา เราก็จะเริ่มจากการเข้าใจจุดประสงค์ของ Dashboard นั้น ๆ ก่อนว่ามีความต้องการจริง ๆ หรือไม่ และมีคุณค่าต่อ Business อย่างไร หลังจากนั้นเราก็จะเริ่มเก็บ Requirement จากฝ่าย Business ว่าเขาอยากเห็นอะไรใน Dashboard, วางแผนออกแบบ Dashboard, transform ข้อมูลให้เป็นรูปแบบที่เราจะนำมาใช้
หลังจากนั้นมายก็เริ่ม Implement Dashboard โดยดึงข้อมูลด้วยการใช้ SQL ใน BigQuery ส่วน Tools ที่ใช้ในการ Implement ก็จะมี Tableau, Data Studio หรือ report ง่ายๆ อย่าง Google Sheet หลังจาก Implement Dashboard แล้ว เราก็ต้องคิดต่อด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ Data ของเรา Update อยู่เสมอเพื่อพร้อม support สิ่งที่ business ต้องการในทุก ๆ วัน
เมื่อ Business มีความต้องการ Dashboard ใหม่ๆ เขาก็จะมาติดต่อเรา เราก็จะเริ่มจากการเข้าใจจุดประสงค์ของ Dashboard นั้น ๆ ก่อน หลังจากนั้นมายก็เริ่ม Implement Dashboard และเราก็ต้องคิดต่อด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ Data ของเรา Update อยู่เสมอ
มายด์ BI Reporting Specialist
แอดเพิร์ธ: งานนี้ต้องใช้ Tool หลายอย่างเหมือนกันนะครับนี่ แล้วในบริษัทที่มีข้อมูลเยอะ ๆ แบบนี้ เวลาเราสร้าง Dashboard มีหลักการเลือกข้อมูลมาใช้อย่างไรบ้างครับ
มายด์: เริ่มจากถามตัวเองก่อนว่าเราอยากให้คนที่ดู Dashboard ของเขา เขาเห็นอะไร และเอาไปใช้ประโยชน์ในมุมไหน ถ้าเราตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้การเลือกข้อมูลมาใช้ก็จะง่ายขึ้นค่ะ
แอดเพิร์ธ: ในการเก็บ Requirement ก่อนจะมาเป็น Dashboard น้องมายด์มีวิธีในการรับมือหรือต่อรอง Requirement กับ Stakeholders (คนที่ทำงานร่วมกับเรา) อย่างไรบ้างครับ
มายด์: การต่อรองกับ Requirement จริง ๆ นี่ค่อนข้างจะขึ้นอยู่กับเทคนิคส่วนตัวมากๆเลยนะคะ สำหรับเรา คือ ถ้าเราไม่เห็นด้วย เราก็จะถามเขาตรง ๆ ว่าตรงนี้มันสำคัญยังไง คุณเห็นกราฟนี้แล้วคุณจะเอาไป action อะไรต่อ ถ้าเขาสามารถตอบเราได้ และมันคุ้มค่าที่เราจะลง afford จริง ๆ เราก็ยินดีที่จะ Support ค่ะ
แอดเพิร์ธ: มาพูดถึงตอนเราสร้าง Dashboard หรือ Report เสร็จแล้วบ้างครับ น้องมายด์มีเทคนิคยังไงในการดูว่า Dashboard หรือ Report ที่เราทำนั้นสุดท้ายนั้นมี Value กับทาง Business จริง ๆ มั้ยครับ
มายด์: ดูง่ายๆว่า Dashboard หรือ Report ที่เราทำออกไป Business ดูแล้ว เขาสามารถนำไป action ต่อได้ไหม หรือจาก Dashbaord เราสามารถ Recommend สิ่งที่เขาควรทำต่อได้เลย สำหรับมายด์ถึงจะเป็น Dashbaord ที่มี Value จริง ๆ ค่ะ
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำกราฟปกติเป็น Trend จำนวน Transaction เป็น Daily (วันต่อวัน) ถ้าเขาดูแค่นี้ มันอาจจะไม่ได้เห็นอะไร แต่ถ้าเราเพิ่มมุมมอง Analysis เข้าไป แสดง % Growth ว่าวันนี้กับเมื่อวาน ขึ้นหรือลงเท่าไหร่ ทำให้เขาเห็นว่า Campaign หรือ การ Commu เมื่อวานของเขาผลยังไม่น่าพอใจนะ เขาจะได้สามารถหาวิธีอื่น หรือลองคิด Factor อื่น ๆ ได้ค่ะ
แอดเพิร์ธ: งานสาย BI ถือว่าเป็นงานที่ต้องใช้ทั้ง People Skill และ Technical Skill เลยนะครับนี่ หลังจากทำอาชีพนี้มาได้ระยะนึงแล้ว ชอบอะไรมากที่สุดในงานนี้ครับ
มายด์: สิ่งที่มายชอบที่สุดในงานนี้คือการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเราเตรียมข้อมูล ออกแบบ Dashboard ให้มี Value ต่อ Business เข้าใจง่ายและมีความสวยงาม ใครที่เข้ามาดูก็สามารถนำ Key Takeaway ที่ได้จาก Dashboard ของเราไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อได้ค่ะ
แอดเพิร์ธ: แล้วด้านที่ยากที่สุดในงาน BI Reporting Specialist อันนี้ล่ะครับ
มายด์: สิ่งที่มายรู้สึกว่า challange ที่สุดคือ เราจะ transform data อย่างไรให้ไปออก dashboard ที่ไม่ใช่ให้เห็นแค่ว่าเดือนนี้ performance เราเป็นอย่างไร แต่จะทำอย่างไรให้คนที่ใช้งานดู Dashboard ของเราแล้วเห็น insight เลยว่า จากข้อมูลแบบเนี่ยแล้วเขาควรจะทำอย่างไรต่อ แล้ว Dashboard นั้นก็ต้องออกมาสวยงาม ถ้าเราทำออกมาแล้วไม่มีคนเข้าไปดูมันก็ไม่เกิด Value ขึ้นอ่ะค่ะ
แอดเพิร์ธ: น่าสนใจมากครับ แล้วสายงานนี้มี Challenge ที่ตัวเทคโนโลยีที่ใช้งานด้วยมั้ยครับ
มายด์: มีเหมือนกันค่ะ เราต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ Dashboard ของเรา Performance ดี โหลดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ต้องมีเทคนิคในการทำ Performance Tuning เพื่อลดเวลาการ Execute Dashboard ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และเรียนรู้ Best Practice จาก Tableau อยู่เสมอ ๆ ค่ะ
แอดเพิร์ธ: ขอบคุณน้องมายด์มากนะครับ แล้วสำหรับคนที่สนใจทำงานด้านนี้ น้องมายด์มีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ
มายด์: สำหรับคนที่อยากมาทำงานสายนี้ จริง ๆ ต้องบอกว่าไม่ว่าจบสายไหนมาก็ทำได้ค่ะ
แต่… ต้องเป็นคนที่อยากเรียนรู้เรื่องนี้จริง ๆ ถ้าพร้อมที่จะฝึกฝนและเรียนรู้ หาข้อมูลจาก คอร์ส Udemy, Youtube, สื่อออนไลน์ต่าง ๆ หรือเพจคอนเท้นท์ดี ๆ อย่าง Data Science ชิลชิล 555555 (แอดเพิร์ธ: กราบ m(_ _)m) ที่มีคอร์สน่าสนใจมาให้ศึกษาตลอด ขอเพียงแค่มีความสนใจ ก็สามารถพัฒนาตัวเอง เพื่อเข้ามาทำงานในสายงานนี้ได้ค่ะ สู้ ๆ นะคะทุกคน
สรุป งาน BI Reporting Specialist ต้องทำอะไรบ้าง
จากที่เราได้คุยกับน้องมายด์กันไปแล้ว ก็จะเห็นว่างาน BI Reporting Specialist เป็นสายอาชีพที่น่าสนใจมาก ๆ และสร้าง Impact กับธุรกิจได้อย่างชัดเจนสายหนึ่งเลยครับ นอกจากนั้น ยังเป็นงานที่เราจะต้องพัฒนาความรู้ทั้งสาย Business และ Technical ไปพร้อม ๆ กัน
และในสายงานนี้เราจะต้องใช้ความรู้เรื่อง Data Analysis และ Data Visualization เข้ามาประกอบด้วยครับ อาจจะไม่ต้องเขียนโปรแกรม Python หรือ R (แต่เขียนได้ก็ดี) ภาษาที่ไม่รู้ไม่ได้เลย เพราะต้องใช้ทุกวันเพื่อ Query ข้อมูลก็คือ SQL นั่นเองครับ
สำหรับคนที่สนใจอาชีพสายอื่น ๆ ในด้าน Data Science ไม่ว่าจะเป็น เช่น Data Analyst, Data Scientist, Data Engineer, Machine Learning Engineer ฯลฯ เดี๋ยวโอกาสหน้าแอดจะไปสัมภาษณ์มาให้กันอีกนะครับ สามารถติดตามเนื้อหาใหม่ ๆ ได้จากเพจ Data Science ชิลชิล เช่นเดิมเลยครับ และถ้าใครทำงานด้านนี้ หรือมีเพื่อนทำงานด้านนี้อยู่ และยินดีให้สัมภาษณ์ ก็ส่งข้อความมาในเพจได้เลยนะครับ